แปลไทยแบบกันเอง : Tom Odell - I Know
ไม่แน่ใจว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ทำให้รู้จักทอมรึเปล่า
แต่รู้ว่าเป็นเพลงที่ชอบที่สุด และฟังบ่อยที่สุด ในไอพ็อตเพลงนี้ขึ้นสถิติเล่น100+
รอบ เพราะมันช่างเจ็บปวด เต็มไปด้วยอารมณ์ และกระแทกกระทั้นดีเหลือเกิน 555555 (มีความโรคจิต)
พูดอะไรไม่ออกนอกจากจะบอกว่าชอบมากจีๆ
Cold house, white light
Yellow lamps on blackened skies
Duffel hoods and deep brown eyes
I sing you a song that I think you'll
like
บ้านอันเย็นเยียบ แสงสีขาวที่ส่องสว่าง
ตะเกียงสีเหลืองบนท้องฟ้าที่มืดมิด
เสื้อฮู้ดขนสัตว์ และตาสีน้ำตาลเข้ม
ฉันร้องเพลงที่ฉันคิดว่าเธอจะชอบ
And we'll walk to places we always go
A million faces I don't know
I say the words you'd always hope
Set our hearts on racing even though...
และเราก็เดินไปที่ๆเรามักจะไปเสมอ
ใบหน้าของผู้คนมากมายที่ฉันไม่รู้จัก
ฉันพูดคำที่เธอหวังจะได้ยินมาตลอด
ทำให้ใจของเราเต้นรัว ถึงแม้ว่า...
[Chorus:]
I know what you told me
I know that it's all over
And I know I can't keep calling
Every time I run (yeah)
I keep on falling
I know what you told me
I know that it's all over
And I know I can't keep calling
Just every time I run (yeah)
I keep on falling on you
ฉันรู้ว่าเธอบอกฉันว่าอะไร
ฉันรู้ว่าทุกอย่างมันจบลงแล้ว
และฉันก็รู้ว่าฉันไม่สามารถจะเรียกหาเธอได้อีกต่อไป
ทุกครั้งที่ฉันวิ่งหนี
ฉันก็ยังคงคิดถึงเธอ
ฉันรู้ ว่าเธอบอกอะไรฉัน
ฉันรู้ ว่ามันจบแล้ว
และฉันก็รู้ว่าคงเรียกหาเธอไม่ได้อีกต่อไป
แค่เพียงทุกครั้งที่ฉันจะจากไป
ฉันก็ยังคงคิดถึงเธออยู่ดี
On the way you stand, on the way you
sway
The way your hair curls in the rain
The little lines that write your face
Or the winter nights you'd come and
stay
ท่าทางที่เธอยืน ท่าทางที่เธอสั่นไหว
รูปแบบเส้นผมของเธอที่ม้วนเป็นลอนในสายฝน
เส้นบางๆที่ล้อมกรอบหน้าของเธอ
หรือแม้กระทั่งคืนฤดูหนาวที่เธอเข้ามาและอยู่กับฉัน
Or the way you hit me when you wanna
fight
The way I yearn, the way I cry
The way our love rolls with the tides
But we know we'll make up every time
หรือแม้กระทั่งวิธีที่เธอทุบตีฉัน เมื่อเธออยากเอาชนะ
วิธีที่ฉันโหยหาเธอ วิธีที่ฉันร้องไห้
วิธีที่ความรักของเราหมุนวนไปกับเกลียวคลื่น
แต่เราก็รู้ว่าเราจะคืนดีกันได้เสมอ
[Chorus:]
[Bridge:]
Oh won't you bring me all the things I
need
I follow the rain to the roaring sea
Oh won't you bring me all the things I
need
โอ้ เธอจะไม่นำมาซึ่งทุกสิ่งที่ฉันต้องการหรอก
ฉันจะตามสายฝนไปจนถึงทะเลที่เกรี้ยวกราด
โอ้ เธอไม่ต้องนำทุกสิ่งที่ฉันต้องการมาให้หรอก
[Chorus:]
And I know what you told me
I know that it's all over
And I know I can't keep calling
Every time I run, yeah
I keep on falling
และฉันรู้ว่าเธอบอกฉันว่าอะไร
ฉันรู้ว่ามันจบแล้ว
และฉันรู้ว่าคงเรียกหาเธอไม่ได้อีกต่อไป
ทุกครั้งที่ฉันหนีไป
ฉันก็จะล้มลงเสมอ
And I know what you told me
I know that it's all over
And I know I can't keep calling
Just every time I run, yeah
I keep on falling on you
และฉันรู้ว่าเธอบอกฉันว่าอะไร
ฉันรู้ว่ามันจบแล้ว
และฉันรู้ว่าคงเรียกหาเธอไม่ได้อีกต่อไป
ทุกครั้งที่ฉันหนีไป
ฉันก็ยังคงคิดถึงเธอเสมอ
ช่วงแรกเป็นการบรรยายถึงสิ่งต่างๆที่เคยมีมาร่วมกัน
ทำร่วมกัน ที่ๆเคยไปด้วยกัน ท่อนที่บอกว่า ‘And we'll walk to places we always go.
A million faces I don't know’ แสดงให้เห็นว่า เขาไม่เคยสนใจใครเลยนอกจากเธอ
คือไปนั่นทำนี่มาด้วยกันตลอด แต่จำใครไม่ได้เลย จำได้แต่หน้าคนรัก ซึ่งเขาก็เขาตัดสินใจที่จะบอกรักเธอ
แม้จะรู้ว่าความรักครั้งนี้มันเป็นไปไม่ได้ หรือจบลงแล้ว (อันนี้แล้วแต่คนฟังจะอิงให้เข้ากับตัวเองเลยค่ะ)
‘Every time I run, I keep on falling on you’ นอกจากหนีไปแล้วก็มักจะล้มอยู่ตลอด
ความหมายจริงๆคือ ยิ่งเขาพยายามจะลืม(การหนี=การลืม) เขาก็ยังคงนึกถึงเธออยู่ตลอด
(ล้มตอนหนี > พลาดหนีไม่ได้ = ยังลืมไม่ได้)
ตัวเพลงจะเน้นไปที่การย้อนความทรงจำมากค่ะ
คนฟังส่วนใหญ่จะเศร้าได้ง่ายเพราะมันใช้คำกลางๆที่จะเรียกความทรงจำของแต่ละบุคคลออกมาได้
(ในคอมเม้นจะมีคนมาคิดถึงแฟนเก่า/คนสำคัญ กันเยอะมาก 5555) เช่นท่อน
On the way you
stand, on the way you sway
The way your
hair curls in the rain
The little
lines that write your face
Or the winter
nights you'd come and stay
นึกเอาเลยคุณ คนนั้นเป็นยังไง ทำยังไง นึกมาเป็นฉากๆ
ส่วนฤดูหนาวนี่ของฝรั่งไงคะ ฤดูหนาวมันเหงาๆ(คนก็คิดกันไปว่างั้น)
ก็จะเป็นฤดูที่จะได้communicateกับคนซะมากกว่า
เพราะส่วนใหญ่หิมะถล่ม ออกนอกบ้านไม่ได้ 55555 ถ้าไม่อยู่ในบ้านกับคนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน
ก็อาจจะไปบ้านเพื่อน ไปดูหนัง ไปกินข้าวกัน
ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์อยู่ดี เขาเลยยกฤดูหนาวมาไว้ในเพลงค่ะ
ส่วนคนเอเชียหรือโซนอื่นฟังฤดูหนาวแล้วไม่หนาว ไม่อิน ไม่เป็นไร เราก็จะข้ามไปใช้ความทรงจำตรงส่วนอื่นที่เขา
‘come and stay’ กับเราแทน (อาจจะเป็นฤดูฝน คืนฝนตกคืนนั้น
ที่กระท่อมปลายนา เป็นต้น)
ส่วนท่อนต่อไปก็ว่าด้วยเรื่องการกระทบกระทั่งกันในชีวิตคู่ ซึ่งทุกคนต้องมีกันบ้างล่ะค่ะ
นี่เรียกว่าเพลงนี้นี่ขุดความทรงจำชีวิตคู่มาพูดย้ำให้คิดถึงเล่นๆกันเลยทีเดียว
นอกจากเพลงนี้จะใช้ได้กับคนรัก
ส่วนตัวเราว่าใช้กับครอบครัวก็ได้นะคะ เช่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่เราไม่ค่อยดูแล
แล้วเขาก็กำลังจะจากไปเสียแล้วนี่ คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องของคุณกับเขาเป็นยังไง
เขาเคยพยายามสั่งสอนอะไรคุณ แล้วตอนนี้มันกำลังจะจบหรืออาจจะจบแล้ว(เพราะเขากำลังจะตาย
หรือตายแล้ว) คุณก็เลยเสียใจและมานึกถึงวันเก่าๆในอดีต และตระหนักได้ว่า
คุณคงจะเรียกหาเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...
...ก็ด้วยดีกรีแก็ทเชื่อมโยงเต็ม
เจ้าของบล็อกก็คิดว่ามันโยงเข้ากันได้อย่างน่าเจ็บช้ำดีไม่แพ้กันค่ะ (งานมโนก็มา)
ปล. เนื้อเพลงที่เราแปลออกมาอิงจากเว็บ azlyrics นะคะ ซึ่งเท่าที่เราฟังแล้วของเว็บนี้ตรงปากนักร้องมากที่สุด
บางเว็บก็จะมีบางท่อนที่แปลกประหลาดแตกต่างกันไป
ซึ่งเพลงฝรั่งก็จะเป็นที่ถกเถียงกันเสมอของบรรดาคนฟังว่าสรุปแม่งร้องว่าอะไรวะ?
จะมีเนื้อเพลงหลายค่ายมากและก็แปลได้ไม่ตรงกันสักที
ถ้าอยากไดด้ที่เป๊ะจริงคงต้องรอlyricsที่แถมมากับอัลบั้ม ซึ่งบางคนก็ไม่ให้นาจาาาาาา
(ลากเสียงยาว) ปล่อยให้คนฟังตบตีกันต่อไปว่ามึงร้องว่าอัลไลกันแน่ครัช
โดยท่อนที่เราไม่มั่นใจ และหาไม่ได้ด้วยว่าจริงๆมันร้องว่าอะไรก็คือ
Oh won't you
bring me all the things I need
I follow the
rain to the roaring sea
Oh won't you
bring me all the things I need
คือเราไม่สามารถหาเนื้อร้องจากตัวค่ายมาได้ค่ะว่ามันร้องว่าอะไรกันแน่
แต่ถ้าฟังจากเพลงมา ท่อนนี้เข้าแก๊บสุดละ อีกแบบนึงที่เจอคือ
Oh you bring me
all the things I need
I follow the
rain to the rolling sea
I love you baby
all the things I lay
บอกเลยว่า ไม่ใช่จ้า ไม่ใช่แน่ๆ
ท่อนสามนี่มันไม่ได้ร้องงี้เลย ก็เลยไม่ได้เอาท่อนนี้มาแปลนะคะ
ถ้าหากมีการอัพเดทหรือเปลี่ยนแปลงอะไรก็จะนำมาปรับลงบล็อกอีกครั้งค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น