แปลไทยแบบกันเอง : Lucy Rose - Köln
And
I see you there on a wave of life and I wonder how
It
could all be so pure
And
I go along just for the ride and I hope for a
Journey
like a child, sure
Of
what he wants and of what he needs and to dive in like
There
is no tomorrow
Let's
see this through to something new, we'll pay the price
If
we beg of borrow
ฉันเห็นเธอที่นั่นบนเกลียวคลื่นแห่งชีวิต
และฉันก็สงสัยว่า
ทำไมมันถึงบริสุทธิ์ได้ขนาดนี้นะ
ฉันจึงเข้าไปร่วมด้วยแค่อยากจะลองขี่ดู
และฉันหวังว่าจะได้
เดินทางเหมือนกับเด็กน้อยอย่างแน่นอน
จากสิ่งที่เขาต้องการและสิ่งที่เขาจำเป็นต้องมี
เขาจึงทะยานเข้าไปเหมือน
จะไม่มีพรุ่งนี้อีกแล้ว
มามองให้ชัดเจนผ่านบางสิ่งใหม่ๆ
เราจะต้องจ่ายค่าเดินทางนี้
ถ้าเราไปขอยืมเขามา
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยอยู่หรอก
ถ้าหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
And
you wake up broke but you feel just fine, too young to
Know
what happens inside
And
you hear the thoughts that you shut outside, looking for
Something
you may not find
Cause
I want to know how it feels so good, when we stay up and
Love
the dark through and through
But
the sun will rise and we'll rise up too, remember that
It's
not just me and you
เธอตื่นขึ้นมาอย่างพังๆแต่เธอก็รู้สึกสบายดี
เธอยังเด็กเกินว่าที่จะ
รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในจิตใจ
และเธอก็ได้ยินความคิดที่เธอเก็บงำเอาไว้
แล้วมองหา
บางสิ่งที่เธออาจจะไม่พบ
เพราะฉันอยากรู้ว่ามันรู้สึกดีได้อย่างไร
ในเมื่อเราอยู่จนดึกดื่นและ
ชอบความมืดที่ผ่านเข้ามา
แต่ตะวันก็จะขึ้น
และเราก็จะตื่นตามไปด้วย จำไว้เถอะว่า
มันไม่ได้มีแค่เธอกับฉันหรอกนะ
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
On
the count of now, on the count of here
Of
I see you there
Won't
you look at me
ในตอนนี้
ณ ที่นี้
ฉันเห็นเธอตรงนั้น
แล้วเธอจะไม่มองฉันหรอ?
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
Hold
me down to the ground
It's
safe if I am not allowed
To
go out
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยอยู่หรอก
ถ้าหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยอยู่หรอก
ถ้าหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยอยู่หรอก
ถ้าหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
ดึงฉันลงแนบพื้น
มันปลอดภัยอยู่หรอก
ถ้าหากฉันไม่อนุญาต
ให้ออกไป
ถามว่าทำไมแปลเพลงนี้
ก็ตอบตรงๆเลยว่าชอบทำนองมันค่ะ มันดุ๊กดิ๊กดี แต่ถามว่าเข้าใจความหมายมันจริงๆไหม
ก็ตอบเลยว่ามีมึนเหมือนกันค่ะ 55555555 เท่าที่หาข้อมูลมา หาคนตีความเพลงนางยากมากกกกกก
แทบจะไม่เจอเลยอ่ะ (หรือเราหาไม่เจอเองก็ไม่รู้) ทั้งไทยทั้งเทศเลยนะ
แล้วส่วนใหญ่เขาก็จะประทับใจทำนองเพลงของนางที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละเพลง
คืออินโทรขึ้นรู้เลยเพลงอะไร แต่ละเพลงมีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนนักร้องบางคนที่เพลงหลายเพลงแม่งคล้ายๆกัน
ทรงเดียวกันจนบางทีเบลอๆว่านี่กูฟังเพลงอะไรอยู่วะ เท่าที่ฟังมามีของ James Blant เพลงไหนดังจะเมโลดี้ต่างและโดดเด่น ลองไปฟังเพลงในอัลบั้มสิคุณ
บางเพลงนี่มันเหมือนเอาเพลงก่อนหน้านี้มาเปลี่ยนเนื้อร้องงะ 55555
แล้วก็มีอีกหลายคนเลยแหละ แต่ของลุงเจมส์นี่จำได้แม่นสุด เพราะชอบเพลงลุงหลายเพลงมากๆด้วยเหมือนกัน
เอาล่ะค่ะ กลับมาที่ลูซี่
เราจะพยายามอธิบายสิ่งที่เราเข้าใจจากการฟังเพลงนี้ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนกันนะคะ
เพราะบางคนที่สกิลภาษาสูงๆหรืออาจจะเป็นFCตัวจริงเสียงจริงอาจจะแปลได้ดีและชัดเจนกว่านี้
เริ่มกันที่ชื่อเพลงเลยนะคะ
ชื่อเพลงนี้อ่านว่า โคโลญค่ะ เป็นภาษาเยอรมัน เพราะชื่อเพลงนี้หมายถึงเมืองโคโลญในเยอรมันนั่นเอง
ส่วนจะมีความหมายอื่นรึเปล่านี้ก็ไม่แน่ใจนะคะ (สารภาพว่าอ่านชื่อเพลงว่า /โคอิน/
อยู่นาน 55555) เพลงนี้ก็มีอยู่ว่า
คนร้องไปเห็นช่วงชีวิตของคนนึงเข้าแล้วก็ประทับใจก็เลยไปร่วมวงด้วยเพราะอยากจะรู้สึกตื่นเต้นกับการเดินทางเหมือนสมัยเด็กๆ
ซึ่งมันก็เต็มที่กับชีวิตอย่างที่นางหวังจริงๆ และนางก็ได้บอกว่า
ในการเปิดโลกด้วยมุมมองใหม่นี้ ถ้าหากไม่ได้มาด้วยใจจริงแล้วก็คงต้องมีราคาที่ต้องจ่าย(ความเซ็ง
หรืออาจหมายถึงการสูญเสียบางอย่างไปเพื่อให้ได้มุมมองนี้มา
ซึ่งถ้าใจมันอยากมาทางนี้อยู่แล้วก็คือยาวไปๆไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง ประมาณนั้นน่ะค่ะ)
และช่วงเวลาที่ได้เดินทางด้วยกัน นางก็จะคอยบอกคนคนนั้นว่า ให้หยุดนางบ้างก็ได้
เพราะถ้าคนร้องบอกว่าไม่ต้องเดินทางต่อ(หรือว่าให้หยุดพักได้)
ก็แสดงว่าที่ตรงนี้ยังปลอดภัยอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นดิน
หรือเป็นที่ไหนไม่รู้ก็ตามเถอะ {{อันนี้ความเข้าใจส่วนตัวล้วนๆ}}
จากนั้นก็พูดว่า เราตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายพังๆ อาจจะเหนื่อยล้า
หรืออะไรอย่างอื่นก็ตามแต่ แต่ว่าเราก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับเรื่องนี้
ซึ่งคนร้องก็อธิบายต่อว่าเป็นเพราะเราเด็กเกินไปที่จะเข้าใจว่าลึกๆแล้วเรารู้สึกยังไงต่างหาก
ถึงท่อนนี้นึกถึงภาพวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตอย่างสุดสวิงริงโก้ตื่นเช้ามาแฮ็งยาวๆลุกไม่ได้
เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันแย่นะ
แต่จริงๆมันก็มีอะไรในใจเขานั่นแหละเลยต้องทำอะไรให้มันสุดทีนขนาดนั้น
ซึ่งเสียงในใจของพวกเขามันก็จะเริ่มดังขึ้น แต่เขาก็อาจจะยังหาคำตอบไม่เจอในตอนนี้
จากนั้นคนร้องก็ตั้งคำถามว่า “นี่เธอรู้สึกดีได้ยังไงกับการอดหลับอดนอนแล้วก็ชื่นชอบไปกับการนั่งโต้รุ่ง
ซึ่งสุดท้ายพระอาทิตย์ก็จะขึ้นตามปกติเพื่อทำหน้าที่ของมัน
แล้วเราก็ต้องลุกขึ้นมาใช้ชีวิตต่อ อย่าลืมสิว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่เรานะ”
ท่อนนี้ทำให้นึกถึง ‘สังคม’ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ
เหมือนจะบอกว่า เธออาจจะชอบกลางคืน แต่คนอื่นๆเขาต้องทำงานกลางวัน ซึ่งสุดท้ายเธอก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนกับพวกเขาแม้ว่าเธอจะไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่ก็ตาม
(เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่เรา แต่มันมีสังคม ผู้คน และกฎเกณฑ์อื่นๆที่เราต้องใส่ใจด้วย)
จริงๆอาจจะมีความหมายอื่นๆอีกนะคะแต่เราฟังแล้วรู้สึกแบบนี้
ใครมีความเห็นอื่น หรือว่าเราแปลผิด มาคุยกันนะคะ
อยากเข้าใจนางเพิ่มขึ้นเหมือนกันค่ะ^^
----------------------------
คำศัพท์
stay up : แปลได้ทั้ง ตั้งอยู่ที่ไหน พักอยู่ที่ไหน หรือจะแปลว่า ไม่ยอมไปนอน
นอนดึกก็ได้ค่ะ
through and through :
ทั้งหมด โดยตลอด แต่อันนี้จากบริบทเขาจะหมายถึงนั่งโต้รุ่งน่ะค่ะ
ก็คือผ่านความมืดมาเรื่อยๆจนเช้า ก็เลยแปลอย่างที่ได้แปะไว้ด้านบน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น