แปลไทยแบบกันเอง : Of Monsters and Men - Crystals
Lost
in skies of powdered gold
Caught
in clouds of silver ropes
Showered
by the empty hopes
As
I tumble down, falling fast to the ground
หลงไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยผงทองคำ
ถูกจับไว้ในกลุ่มเมฆที่ทำมาจากเชือกเงิน
อาบชโลมด้วยความหวังอันว่างเปล่า
เมื่อฉันล้มเหลว
ก็ร่วงลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว
I
know I'll wither so peel away the bark
Because
nothing grows when it is dark
In
spite of all my fears, I can see it all so clear
I
see it all so clear
ฉันรู้
ฉันคงจะเหี่ยวเฉาลง จนเปลือกนั้นหลุดลอกไป
เพราะไม่มีสิ่งใดจะเติบโตได้ในความมืด
ทั้งๆที่ฉันหวาดกลัว
ฉันกลับเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
ฉันเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
Whoa-o-o-o,
Cover your crystal eyes
And
feel the tones that tremble down your spine
Whoa-o-o-o,
Cover your crystal eyes
And
let your colours bleed and blend with mine
ปิดดวงตาใสราวกับผลึกของเธอเสีย
และจงรู้สึกถึงทำนองเสียงสูงต่ำที่สั่นสะเทือนไปถึงกระดูกสันหลังของเธอ
ปิดดวงตาคู่ใสของเธอซะ
และให้สีของเธอไหลออกมาผสมกับฉัน
Making
waves in pitch black sand
Feel
the salt dance on my hands
Raw
and charcoal coloured thighs feel so cold
And
my skin feels so paper-thin
สร้างรอยคลื่นบนผืนทรายสีดำเป็นเงา
รู้สึกถึงเกลือที่เต้นอยู่บนฝ่ามือ
ต้นขาเปลือยเปล่าที่มอมแมมเย็นยะเยือก
และทั่วร่างรู้สึกเปราะบางราวกับกระดาษ
I
know I'll wither so peel away the bark
Because
nothing grows when it is dark
In
spite of all my fears, I can see it all so clear
I
see it all so clear
ฉันรู้
ฉันคงจะเหี่ยวเฉาลง จนเปลือกนั้นหลุดลอกไป
เพราะไม่มีสิ่งใดจะเติบโตได้ในความมืด
ทั้งๆที่ฉันหวาดกลัว
ฉันกลับเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
ฉันเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
Whoa-o-o-o,
Cover your crystal eyes
And
feel the tones that tremble down your spine
Whoa-o-o-o,
Cover your crystal eyes
And
let your colours bleed and blend with mine
ปิดดวงตาใสราวกับผลึกของเธอเสีย
และจงรู้สึกถึงทำนองเสียงสูงต่ำที่สั่นสะเทือนไปถึงกระดูกสันหลังของเธอ
ปิดดวงตาคู่ใสของเธอซะ
และให้สีของเธอไหลออกมาผสมกับฉัน
But
I'm okay in see-through skin
I
forgive what is within
Because
I'm in this house
I'm
in this home
All
my time
แต่ฉันก็โอเคที่จะรู้ความจริง
ฉันให้อภัยเรื่องราวเหล่านั้นได้
เพราะฉันอยู่ในบ้านนี้
ฉันอยู่ในบ้านหลังนี้
มาตลอดชีวิตของฉัน
Whoa-o-o-o,
Cover your crystal eyes
And
feel the tones that tremble down your spine
Whoa-o-o-o,
Cover your crystal eyes
And
let your colours bleed and blend with mine
ปิดดวงตาใสราวกับผลึกของเธอเสีย
และจงรู้สึกถึงทำนองเสียงสูงต่ำที่สั่นสะเทือนไปถึงกระดูกสันหลังของเธอ
ปิดดวงตาคู่ใสของเธอซะ
และให้สีของเธอไหลออกมาผสมกับฉัน
ชอบทำนองมันค่ะ
ความหมายตรงๆไม่เท่าไหร่ แต่ความหมายแฝงของสัญลักษณ์
และสัญญะต่างๆในเพลงนี่เยอะมาก และแปลกันหลายชั้นเลยทีเดียว MVเพลงนี้จะเป็นภาพของนักร้องวงนี้ช่วยกันสร้างบางอย่างขึ้นมาด้วยส่วนผสมที่แปลกประหลาด
และสุดท้ายก็ปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวดวงตาคริสตัลคนนึงจากกองขี้เถ้า(ส่วนผสมที่เขาเทรวมกันลงไปในนั้น
มีสารพัด ส่วนใหญ่เป็นผงๆสีเทา)
เราว่าดูๆไปแล้วเหมือนการเกิดใหม่ของนกฟีนิกส์จากกองขี้เถ้า
แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เพลงนี้เป็นเพลงประกอบอนิเมชั่นเรื่อง The Good
Dinosaur ด้วย!!!
ซึ่งพอเอามาเปิดคู่กันแล้วมันเข้ากันดีและเข้าใจง่ายกว่าเดิมอยู่ค่ะ
ก็จะขอนำเสนอการตีความเพลงนี้เป็นสองแบบนะคะ
แบบอิงกับภาพบนตร์และแบบที่ตีความกับตัววงดนตรีเอง (อ้างอิงจาก CLIFFORD
STUMME. What does “Crystals” by Of Monsters and Men mean?. Access : http://cliffordstumme.com/2015/05/13/what-does-crystals-by-of-monsters-and-men-mean/)
The Good Dinosaur
เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่น่าดู
แต่ยังไม่ได้ดูสักที แต่เพราะอยากแปลเพลงนี้เลยต้องไปหาดูค่ะ 5555
ถ้าใครเคยดูตัวอย่างหนังน่าจะเดาได้ว่า เสียน้ำตาแน่นอน เรื่องราวเกี่ยวกับโลกล้านปีที่อุกาบาตดันพลาดเป้า
แล้วไดโนเสาร์ไม่สูญพันธ์ ทำให้วงจนเดิมยังดำเนินต่อไป หนังโฟกัสไปที่อาโล ลูกไดโนเสาร์คอยาวตัวหนึ่งที่พลัดหลงกับครอบครัว
แล้วก็ต้องมาผจญภัยกับ สป็อต ลูกมนุษย์ยุคหินตัวเล็กๆ
ทั้งสองเดินทางด้วยกันและต่อสู้ร่วมกันมาตลอด
หนังก็จะพาเราไปค้นหาคำตอบว่าแล้วสรุปไอ้ลูกไดโนเสาร์คอยาวสีเขียวจะหาครอบครัวเจอไหม
แล้วเรื่องจะจบลงเช่นไร ซึ่งเมื่อเพลงนี้เปิดกับMVแล้วก็บอกได้คำเดียวว่า
ซึ้งอยู่ค่ะ เพราะเพลงเป็นเหมือนตัวบอกเล่าถึงตัวของอาโลได้ดีที่เดียว
จากลูกไดโนเสาคอยาวที่อ่อนแอที่สุดในครอบครัวและขี้ขลาด
ต้องมาผจญเรื่องราวต่างๆนาๆ ทั้งแรงบันดาลใจที่ได้รับจากพ่อ ก่อนจะต้องสูญเสียไป
ซึ่งเขาก็รู้ว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของตัวเขาเอง แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาอยู่ตรงหน้า
อาโลก็จะสู้ ทั้งๆที่ยังกลัว จนในที่สุด ความกลัวก็ได้สอนให้เขาเข้าใจโลกและเติบโตมากขึ้น
ท่อนฮุคที่บอกว่า Cover your crystal eyes… ก็หมายถึงให้หยุดมองโลกด้วยความไร้เดียงสาและเปราะบาง ไม่ต้องมอง หลับตาไป
แล้วใช้ใจรู้สึกถึงสิ่งรอบๆตัว แล้วให้สี(อาจจะหมายถึง นิสัย ความชอบ
หรือความรู้สึกภายใน)ของอาโล มันไหลออกมาและผสมเข้ากับสป็อต อันนี้สปอยนิดนึง
เพราะสป็อตเป็นคนกล้า ตัวเล็กนิดเดียวแต่กล้ามากๆ
และสป็อตนี่แหละที่เป็นแรงขับให้อาโลต่อสู้กับสิ่งต่างๆทั้งๆที่กลัวแทบตายได้
ประโยคนี้ก็เป็นการบอกเล่าถึงเนื้อเรื่องอยู่กลายๆค่ะ ส่วนท่อน Making
waves
ก็บอกเล่าถึงการผจญภัยในช่วงหลังๆของเรื่องที่มันหนักหน่วงขึ้น
และยิ่งทำให้เขาเปราะบางหนักกว่าเดิม แต่ตามสไตล์การ์ตูนเด็กคือเราจะลุกขึ้นสู้
และเราจะชนะ 555555 นั่นแหละค่ะ ประมาณนั้น ส่วนท่อน
But
I'm okay น่าจะหมายถึง อาโลเข้าได้เข้าใจทุกอย่างแล้ว รวมไปถึงเนื้อแท้ของสป็อตด้วย
ซึ่งเขาก็ให้อภัยทุกอย่างและรักสป็อตมากๆ(แบบเพื่อนอ่ะนะ) นอกจากนั้นเข้าก็โตขึ้นและเข้าใจโลกมากขึ้น
เรื่องราวต่างๆสอนเขาและทำให้เขากล้าหาญ แต่เขาก็ยังเป็นคนจิตใจดีเหมือนเดิม(นิสัยสัตว์กินพืช)
ท่อนนี้จะโยงไปถึงเรื่องของครอบครัวเขาค่ะ
ความหมายทั่วไป
เพลงจะบอกเล่าถึงช่วงที่สวยงามของชีวิตที่จับต้องไม่ได้
ซึ่งพอคนร้องพบว่าความสวยงามที่เขาพบนั้นมันไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อตัวเขาเลย
เขาก็เลยเฟล ซึ่งรู้ดีว่าเขานั้นอ่อนแอ ท่อนนี้จะเปรียบตัวเองเหมือนกับต้นไม้ทีเปลือกไม้มันลอกออก
ซึ่งเป็นสภาวะที่ต้นไม้มันอ่อนแอมาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อรา
หรือโดนหนอนแมลงบ่อนทำลายได้ง่าย ซึ่งอันนี้เป็นเหมือนสภาวะการปรับตัวนั่นเองค่ะ
ถึงแม้ว่าจะอ่อนแอ แต่ก็เพราะอยู่ในที่มืด(สิ่งไม่ดี ความยากลำบาก)
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะอ่อนแอลงบ้าง
แต่เพราะความยากลำบากนี้เองค่ะที่ทำให้เข้าใจทุกอย่างได้ชัดเจน (กลัวจนถึงที่สุดแล้ว
อ่อนแอจนถึงที่สุดแล้ว จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงค่ะ) ต่อมาตรงท่อนฮุก การปิดดวงตาคริสตัลก็หมายถึงการหยุดมองโลกในแง่ดีนั่นเองค่ะ
แล้วให้ใช้ร่างกายสัมผัสรับรู้ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ให้นิสัยหรือตัวจนที่แท้จริง(สี) ปลดปล่อยออกมา
และผสมผสานไปกับคนที่ร่วมเดินทางเคียงข้างคุณ
ท่อน Making wave...
หมายถึงการพยายามทำเรื่องสำคัญ หรือสิ่งที่ยิ่งใหญ่
แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรหรือมันจะแปลกแยกจากคนอื่น แต่เขาก็ทำค่ะ
ท่อนต่อมาที่ว่า Raw and charcoal... หมายถึงความเปลือยเปล่า
ต้องเปิดเผยสิ่งที่ควรปกปิด(ต้นขา) อาจหมายถึงอดีตหรือตัวตนที่แท้จริงที่มันอาจจะไม่น่าดูสำหรับคนอื่น
แต่เธอก็ต้องเปิดเผยมันออกมาเพราะนั่นคือตัวตนจริงๆของเธอ แม้ว่ามันทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอมากกว่าเดิมก็ตามที
และท่อนสุดท้าย But I’m okay...
หมายถึงการยอมรับตัวจนที่แท้จริงของตัวเอง ให้อภัยตัวเอง และเปิดเผยสิ่งเหล่านั้นกับครอบครัวหรือคนรอบข้างนั่นเองค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น