แปลไทยแบบกันเอง : Lucy Rose - Into the Wild
And
you stay so far away
You
come back even closer
Cause
we both know how the other feel
You
came running down with your hair looking wild
Something
I haven't seen in a while
เธออยู่ไกลเหลือเกิน
และเธอก็กลับเข้ามาใกล้
เพราะเราต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร
เธอรีบกลับมาด้วยผมที่ดูยุ่งเหยิง
มันเป็นอะไรที่ฉันไม่ได้เห็นมาสักพักแล้ว
How
to know how to feel
About
you
How
to know how to be
Without
you
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรรู้สึกยังไง
เกี่ยวกับเธอ
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องอยู่อย่างไร
หากไม่มีเธอ
If
I could you know me
If
you would believe me
If
I could you know me
I
would let you in
หากฉันทำได้
เธอคงเข้าใจฉัน
หากเธอจะช่วยเชื่อฉัน
ถ้าฉันทำได้
เธอคงจะรู้
ฉันคงให้เธอเข้ามา
And
we both know things will change
Move
on and just let go
Cause
we both know how the story ends
You
came running down with your hair looking wild
Something
I haven't seen in a while
เราก็ต่างรู้ว่าสิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไป
เดินไปข้างหน้า
และปล่อยมันไป
เพราะเราต่างก็รู้ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร
เธอรีบกลับมาหาฉันพร้อมกับผมกระเซอะกระเซิง
นั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้เห็นมาสักระยะแล้ว
How
to know how to feel
About
you
How
to know how to be
Without
you
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรรู้สึกยังไง
เกี่ยวกับเธอ
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องอยู่อย่างไร
หากไม่มีเธอ
If
I could you know me
If
you would believe me
If
I could you know me
I
would let you in
หากฉันทำได้
เธอคงเข้าใจฉัน
หากเธอจะช่วยเชื่อฉัน
ถ้าฉันทำได้
เธอคงจะรู้
ฉันคงให้เธอเข้ามา
Into
the wild
Into
the wild
สู่ธรรมชาติที่แท้จริง
สู่สิ่งที่มันเป็น
ชอบทำนองเพลงนี้ มันฟังสบายๆดี
และชอบตรงท่อนที่บอกว่า “You
came running down with your hair looking wild
Something
I haven't seen in a while.” ภาพในหัวคือ ใครสักคนวิ่งลงจากเนินลาดเขียวชอุ่ม
เหมือนม้าป่าวิ่งมาแต่เป็นภาพสโลวประมาณ0.75 ผมลู่ไปตามลมเหมือนแผงคือม้าโบกสะบัด
มันยุ่งเหยิง แต่ก็สวยเป็นธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่ง แล้วเขาก็วิ่งมายืนตรงหน้าเรา
มีแสงแดดส่องอ่อนๆทำให้ทุกอย่างดูเป็นประกาย...
...ตั้งใจแปลเพลงนี้เพราะท่อนนี้แหละ
5555555…
ชอบอ่ะ มันดูธรรมช๊าด ธรรมชาติ แต่พอแปลเต็มๆเพลงแล้วแบบ...
นี่พี่คุยกับตัวเองอีกแล้วหรอคะ!? บอกตรงๆเลยว่าแอบไม่เข้าใจอยู่บ้าง
คือถ้าฟังรวมๆเราเข้าใจนะ มันเหมือนคุยกับใครสักคนอ่ะ ฟังเป็นท่อนๆไปคือโอเค เก็ท
แต่พอเอามาแปลยาวรวมกันมันเหมือนงานเติมคำในช่องว่างที่เด็กไม่ยอมทำการบ้านแล้วก็เขียนมาเป็นพารากราฟโดยที่ไม่ได้เติมคำอะไรลงมาเลย
เนื้อความมันเลยโดดๆในความรู้สึก
เพลงนี้เหมือนความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ยังไม่มีบทสรุป
แต่อีคนร้องเนี่ยทำท่าอยากจะสรุปแล้วแหละ ซึ่งสองคนนี้ห่างกันไปสักพักนึง แล้วอีกคนก็กลับมา
ซึ่งการกลบมาของเขา คนร้องก็ยังรู้สึกประทับใจในตัวคนคนนั้นอยู่
คือก็ชอบมาตลอดแหละ แต่ห่างๆไปความรู้สึกก็จางๆลง แล้วพอกลับมาเจอกันอีกครั้ง
ตอนที่เขากำลังเดินเข้ามาหา เหมือนภาพมันถูกสโลว มันตราตรึง
มันเอาความรู้สึกทุกอย่างที่เคยมีกลับมาด้วยและตอกย้ำให้เด่นชัด ซึ่งมันทำให้เรา(คนร้อง)สับสนว่า
เอ๊ะ นี่ฉันต้องรู้สึกยังไงกันแน่
แล้วถ้าเลือกที่จบไม่สานต่อความสัมพันธ์ล่ะจะเป็นยังไง
ซึ่งเธอก็รุ้ว่าทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป สิ่งที่ต้องทำคือเดินไปข้างหน้า
และปล่อยไปตามวิถีของมัน ซึ่งถ้าเราตัดสินใจได้ ถ้าเขาเชื่อใจเรา ถ้าเขาเข้าใจเรา
เราเองก็คงยอมให้เขาเข้ามานั่งในใจ เข้ามาสู่ธรรมชาติตัวตนแท้จริงของเรา
ที่ไม่มีการปกปิด...ซึ่งส่วนตัวเจ้าของบล็อกคิดว่า ‘เขา’ ก็คงจะมีความธรรมชาติ(wild) อยู่ในตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแหละ
แต่เหมือนคนร้องมันไม่ได้เป็นตัวของตัวเองขนาดนั้นไง อาจจะมีคีปลุคบ้างนิดหน่อย ซึ่งการตัดสินใจเกี่ยวกับสายสัมพันธ์นี้คือ
ถ้าไม่ใช่ ก็จบ แต่ถ้าใช่ ก็คงเข้าป่า(เป็นธรรมชาติ)ไปทั้งคู่เลย...
พูดแล้วนึกถึงภาพม้าป่าสองตัววิ่งคลอเคลียกันอยู่กลางทุ่งหญ้าเลยแฮะ
(อย่าลืมว่าต้องภาพสโลว0.75 และมีแสดงแดดอ่อนๆสะท้อนขนมันด้วย)....
ปล.ศัพท์ไม่ยาก ไม่แปลนะแจ๊ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น