แปลไทยแบบกันเอง : José González – Step Out




Time to step outside, time to step outside
Time to step out, time to step out
Time to step outside, time to step outside
Time to step outside you

ได้เวลาก้าวออกไปข้างนอกแล้ว
ได้เวลาก้าวออกไป ก้าวออกไป
ได้เวลาก้าวออกไปข้างนอกแล้ว
ได้เวลาก้าวออกไปจากสิ่งที่เธอเป็นแล้ว

House on fire, leave it all behind you
Dark as night, let the lightning guide you

บ้านลุกไหม้ไปแล้ว ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเถอะ
มืดมิดราวกับกลางคืน ใช้แสงจากสายฟ้านำทางเธอเถอะ

Step outside, time to step outside, time to step outside
Time to step outside you

ก้าวออกมา ได้เวลาก้าวออกมาข้างนอกแล้ว ได้มาเวลาออกมาข้างนอก
ได้เวลาออกจากสิ่งที่คุณเป็น

House on fire, leave it all behind you

บ้านอยู่ในกองเพลิงแล้ว ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังเถอะ

Living life, feeding appetites
Stayed through every hard stop, every go
Being bland
Breathing half the time

ใช้ชีวิต เติมเต็มความปรารถนา
ผ่านพ้นทุกช่วงที่ยากจะหยุด ทุกช่วงที่ต้องไปต่อ
จงอ่อนโยน
และหายใจตลอดเวลา

House on fire, leave it all behind you
Dark as night, let the lightning guide you

บ้านลุกไหม้ไปแล้ว ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเถอะ
มืดมิดราวกับกลางคืน ใช้แสงจากสายฟ้านำทางเธอเถอะ

Step outside, time to step outside, time to step outside
Time to step out

ก้าวออกมา ได้เวลาก้าวออกมาข้างนอกแล้ว ได้มาเวลาออกมาข้างนอก
ได้เวลาออกมา

Broke tooth Monday
Something's not the same
Blank head, crossed eyes sweep the floor
Feel your presence
In your absence shut the door

ฟันหักเมื่อวันจันทร์
บางอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว
หัวว่างเปล่า กวาดสายตามองไปยังพื้น
รู้สึกถึงการมีอยู่ของตัวคุณเอง
และถ้าคุณไม่อยู่ก็ปิดประตูซะ

House on fire, leave it all behind you
Dark as night, let the lightning guide you

บ้านลุกไหม้ไปแล้ว ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเถอะ
มืดมิดราวกับกลางคืน ใช้แสงจากสายฟ้านำทางเธอซะ

            มิตตี้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออีกเพลง เอาจริงๆแล้วสำหรับเราเพลงมิตตี้เพราะเกือบทุกเพลงเลยนะ ชอบอ่ะ จะทยอยลงเรื่อยๆค่ะ เพลงนี้และบทที่แปลนี้คือเป็นเนื้อเพลงที่ตรงกับเสียงร้องมากที่สุด เพราะเราฟังเพลงนี้มานานแล้วแต่พึ่งมาแปลจริงจัง พอไปหาเนื้อเพลงแล้วเจอบางอันฟังแล้วไม่ใช่ ไม่ตรงกันเลย แต่อันนี้ตรงสุดแล้วค่ะ เพลงก็จะบอกเล่าถึงการเริ่มต้นใหม่ ออกมาจากกรอบเดิมๆ โดยใช้ธีมหลักคือ บ้านไฟไหม้ >> ไม่มีที่ให้กลับไป ไม่มีที่ให้ซ่อน ไม่มีที่ให้ทำอะไรแบบที่เคยทำได้อีกแล้วนะ
บ้านไหม้แล้วจ้า ให้ทิ้งทุกอย่างไว้แล้วก้าวออกมา ซึ่งบ้านเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิต ในบ้านมันจะต้องมีวงจรเดิมๆของการทำอะไรบางอย่าง บางครั้งบ้านคือที่ๆปลอดภัย ใช้สำหรับซ่อนตัวและปกป้องเราจากเรื่องร้ายๆภายนอก แต่ตอนนี้บ้านไหม้ไปแล้ว ไม่มีที่ให้กลับไปแล้ว จงออกมาใช้ชีวิตของคุณซะ

สถานการณ์ตอนนั้นลำบากมาก มันมืดมิดจนคุณมองหาทางไปไม่ได้เลย แถมฟ้าก็ผ่าอีกต่างหาก นั่นแหละ ใช้แสงจากสายฟ้าในการนำทางคุณออกมาจากจุดนั้น ตรงนี้เหมือนจะสื่อเรื่องการใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสนะคะ เพราะฟ้าผ่าฟ้าร้องทำให้คนหวาดกลัว และมันก็เสี่ยงที่จะเดินออกไปในพายุ แต่ว่าบ้านก็ไม่มีให้กลับ ก็ต้องใช้แสงจากสายฟ้าเนี่ยแหละค่ะนำทางเราให้พอรู้ว่าข้างหน้ามีอะไรบ้าง

ส่วนท่อนต่อมาต้องการจะบอกว่า เราใช้ชีวิตเพื่อทำตามสิ่งที่เราต้องการมาตลอด ผ่านทั้งช่วงเวลาที่เราจำต้องหยุดพัก ทั้งๆที่ชีวิตอาจจะดี และช่วงที่บีบคั้นให้เราต้องก้าวต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องอ่อนโยน และต้องมีชีวิตอยู่ (การหายใจหมายถึงการมีชีวิต)


ส่วนท่อนฟันหักนี่... ต้องการจะสื่อความถึงการเริ่มต้นที่เลวร้ายค่ะ เพราะวันจันทร์เป็นวันที่เราเริ่มทำงานกันใช่ไหมคะ แล้วดันมาหักวันนี้ ช่างเป็นการเริ่มต้นสัปดาห์ที่น่าประทับใจจริงๆ (ค่ารักษาฟันก็แพงอยู่นะคะ ไทยว่าแพงแล้วตปท.แพงกว่าอีก เอิ๊กๆ) มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว (คุณอาจจะรู้สึกแย่มากๆ) สมองโล่งไปหมด แล้วกวาดสายตามองพื้น โล่งนี่ไม่ใช่โล่งจริงๆนะคะ แต่บางครั้งการที่เราเหม่อหรือรู้สึกเหมือนหัวมันblankเพราะมันมีเรื่องเยอะมากจนเลือกคิดไม่ถูก สมองเราเลยดับค่ะ ไม่ประมวลผลอะไรเลย ส่วนท่าทางการมองพื้นเองก็เป็นสัญลักษณ์ของการจมกับความคิดบางอย่างค่ะ รู้สึกตัวซะ ถ้าไม่มีสติก็ก็ปิดประตู ปิดประตูนี่หมายความได้หลายอย่างนะคะ ตั้งแต่ประตูจริงๆเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัว หรือประตูทางความรู้สึก หรืออาจจะหมายถึงการนอนหลับค่ะ ถ้ารู้สึกแย่มากๆมึนมากๆ นอนไปเลย ปิดประตูเหมือนกันค่ะ คือปิดการรับรู้จากโลกภายนอกนั่นเองค่ะ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans