แปลไทยแบบกันเอง : Imagine Dragons - The Unknown



Woman, help me
You turn my head in circles
Mama, blessed me
With magnet eyes for purple
Oh, so let me show you something good

แม่สาวน้อย ช่วยฉันที
เธอน่ะทำให้ฉันหัวหมุนไปหมดแล้ว
แม่ อวยพรผมหน่อย
ด้วยดวงตาสีม่วงที่แสนดึงดูดคู่นั้น
โอ้ ให้ฉันได้โชว์อะไรดีๆให้เธอดูเถอะ

Pastor, preacher
I want to say I'm sorry
Nice to meet ya
I think my eyes are starry
Pledge allegiance to my only

คุณพระคุณเจ้า
ผมอยากจะกล่าวว่าผมเสียใจ
ดีใจที่ได้เจอคุณนะ
คิดว่าตอนนี้ตาผมเป็นประกายด้วยความหวังแล้วล่ะ
สัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อพระเจ้าของผมคนเดียวเท่านั้น

Sooner or later it all comes around
Hopefully then I will see
After the people and places are gone
You will come back,
You will come back to me, to me, to me
You will come back to me, to me, to me

ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องมาถึง
หวังว่าผมจะอยู่เห็นมันนะ
หลังจากที่ผมตายไป
คุณก็จะกลับมา
คุณก็จะกลับมาหาผม หาผม หาผม
คุณก็จะกลับมาหาผม หาผม หาผม

Auntie Mara,
I think you know my reasons
I was a product
Of everything in season
Oh, so heavy. Set me free again

ป้ามาร่าครับ
ผมคิดว่าป้าเข้าใจผมนะ
ผมน่ะเป็นผลผลิต
ของความทุ่มเทของครอบครัว
โอ้ หนักหนาอะไรขนาดนี้ ปล่อยให้ผมเป็นอิสระอีกครั้งที

Oh, my papa,
If all the world could know you,
You could stop a thousand wars across the globe
Oh, I miss ya
Show them something good

โอ้ คุณพ่อครับ
หากทั้งโลกรู้จักพ่อได้
พ่อน่าจะหยุดสงครามนับพันทั่วโลกได้
โอ้ ผมคิดถึงพ่อเหลือเกิน
แสดงให้เขาเห็นเรื่องดีๆสิครับ

Sooner or later it all comes around
Hopefully then I will see
After the people and places are gone
You will come back,
You will come back to me, to me, to me
You will come back to me, to me, to me

ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องมาถึง
หวังว่าผมจะอยู่เห็นมันนะ
หลังจากที่ผมตายไป
คุณก็จะกลับมา
คุณก็จะกลับมาหาผม หาผม หาผม
คุณก็จะกลับมาหาผม หาผม หาผม

To me
To me

ชอบเพลงนี้ตรงเสียงนกนั่นแหละ ฟังไปสักพักเริ่มติดหูแล้วก็เลยมาแปล จากบทสัมภาษณ์เขาบอกว่าเพลงนี้แต่งให้ปู่ของ Dan (นักร้องนำ) ที่ตายไป เราก็เลยเพิ่งสังเกตว่า อ้าว นี่มาแนวเพลงเศร้าแต่ทำนองสดใสอีกแล้ว เหมือน Bear's Den - Above The Clouds Of Pompeii คือทำนองมันสนุกมากเลยนะ แต่เนื้อหาออกแนวปลงตก เตรียมตาย พูดถึงความตาย ตายยังไงหรอ? เรามาค่อยๆดูกันไปทีละส่วน

ท่อนแรกพูดถึงชีวิตรัก(คิดว่านะ) เพราะเขาบอกว่าให้ผู้หญิงเลิกปั่นหัวเขาได้แล้ว แล้วก็ให้แม่เขาช่วยอวยพรเขาให้รอดปลอดภัยด้วยดวงตาสีม่วง ซึ่งทางตะวันตกเขาเชื่อกันว่า สีม่วงเป็นสีของกษัตริย์หรือราชวงศ์ เขาอาจจะหมายความว่าแม่เขามีเชื้อสาย หรือมีอำนาจมากพอที่จะปกป้องคุ้มครอง(ให้พร)เขาได้ หรืออาจจะหมายความถึงในเชิงศาสนาก็ได้ เพราะสีม่วงเป็นสีเสื้อคลุมของพระราชาคณะ อาจจะหมายความในเชิงประมาณว่าให้แม่ที่เคร่งศาสนา หรือเป็นศาสนิกชนที่ดีของเขาช่วยอวยพรให้ที เพราะมันก็คงรู้สึกว่าเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์น่าดู เพื่อที่หลังจากนั้นเขาจะได้ทำในสิ่งที่ดีๆให้ you ซึ่งเราคิดว่าน่าจะหมายความถึงปู่ของเขาที่ตายไปแล้ว ได้เห็น (ก็เขาบอกว่าแต่งเพลงนี้ให้ปู่เขานี่เนอะ)

Pastor หมายถึงบาทหลวง,พระ,ผู้รักษาวิญญาณ
Preacher หมายถึง นักเทศน์ หรือ ผู้แสดงธรรม เราก็เลยแปลไปว่าคุณพระคุณเจ้า เหมือนในหนังพีเรียดที่ตัวละครอื่นมักเรียกตัวละครพระ หรือคำอุทานที่ใช้เรียกพระว่า 'คุณพระคุณเจ้า' หรือ 'พระคุณเจ้า' แต่คำแรกมันจะให้ความรู้สึกของคำอุทานมากกว่า และดูซ้ำคำตามเพลงมากกว่าคำว่าพระคุณเจ้าเฉยๆ ซึ่งเขาเหมือนกำลังสารภาพบาปหรือรู้สึกผิดกับเรื่องบางอย่างที่ผ่านมาแล้ว แต่เขาก็ดีใจที่วันนี้ได้เจอพระเจอเจ้าบ้าง ก็เลยรู้สึกมีหวามหวัง (my eyes are starry >> ตาเป็นประกาย >> ก็คือไม่ดีใจมากๆมันก็ต้องมีความหวังเนี่ยแหละ) ส่วน Pledge allegiance to เป็นสำนวน แปลว่า สัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อ.... แล้วการพูดประโยคนี้ออกมาต่อหน้าบรรดาสาธุคุณก็เหมือนหมายความว่าจะหนหน้าเข้าหาศาสนา จะนับถือต่อพระเจ้าของเขาเพียงพระองค์เดียวอะไรทำนอนนั้นน่ะค่ะ

ท่อนฮุคหมายถึงวัฏจักรชีวิต อารมณ์เหมือนกงกำกงเกวียนว่าทำอะไรไปเดี๋ยวสุดท้ายมันก็จะย้อนกลับมา ซึ่งเขาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะให้อยู่เห็นวัฏจักรนั้น (แสดงว่าเขาหวังจะเห็นเรื่องดีๆ อาจจะเคยไปช่วยใคร/อะไรหรือทำอะไรดีๆไว้) แต่หลังจากที่เขาตายไป เขาก็จะได้พบเจอกับคนที่เขารักอีกครั้ง ซึ่งก็น่าจะเป็นปู่ของเขา (After the people and places are gone >> หลังจากที่ผู้คนและสถานที่ได้หายไป >> ตาย หรือ pass away เพราะว่าได้ผ่านไปแล้ว ผู้ที่ได้ผ่านจากโลกนี้ไปแล้วอะไรทำนองนั้น) แสดงให้เห็นว่าเขารักปู่เขามากเลยนะเนี่ย

ท่อนต่อมาว่าด้วยป้าของเขาที่เขาคิดว่าเข้าใจเขาดีที่สุด ว่าเขาเป็นเหมือนความคาดหวังของครอบครัว ที่แปลอย่างนี้เพราะว่าเรานึกถึงผลผลิตทางการเกษตรน่ะค่ะ คำว่า everything in season มันหมายถึงผลผลิตในฤดูกาล ซึ่งก็หมายถึงว่าการจะพูดคำนี้ได้ ต้องพูดตอนสิ้นสุดฤดูกาล ผ่านการสะสม ผ่านการเก็บเกี่ยวแล้ว แล้วก็เอาทุกสิ่งทุกอย่างที่สรรกามาได้มาผลิตออกมาเป็นคนคนนึง (ซึ่งก็คือเขา) ก็เพราะว่าครอบครัวทุ่มเทขนาดนั้นเนี่ยแหละ มันก็เลยมากดดันเขาไปกลายๆด้วย เขาก็เลยคิดว่าป้ามาร่าที่น่าจะเข้าใจเขามากที่สุดคงจะไม่ได้ความหวังอะไรกับเขาขนาดนั้นหรอกนะ การที่มีใครสักคนที่เข้าใจเราและไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรามากเกินไปมันก็เหมือนเป็นการปลดแอกให้ตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ว่าจริงๆเราคิดว่าเขาอยากให้ป้าช่วยเปลี่ยนความคิดคนในครอบครัวด้วยอ่ะ เพราะว่าเขาไม่อยากจะแบกเอาความคาดหวังของคำว่าลูกที่ครอบครัวทุ่มเทมอบสิ่งดีๆทุกอย่างให้ (I was a product of everything in season) ไว้อีกต่อไปแล้ว

ท่อนสุดท้ายพูดถึงพ่อ ท่อนนี้ยากตรงที่ว่าเราไม่รู้ว่าเขาพูดถึงพ่อจริงๆ หรือใช้คำว่าพ่อแทนปู่ที่ตายไป หรืออันที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าพ่อหมายถึงพระเจ้า (พระบิดา อะไรมาณนั้น) ถ้าพูดถึงพ่อหรือปู่ แสดงว่าพ่อกับปู่ต้องเป็นคนดีมากถึงขึ้นที่หยุดสงครามระหว่างประเทศต่างๆในโลกได้ แต่ถ้าหมายถึงพระเจ้านี่จะง่ายกว่ามาก คือเหมือนเขาต้องการสื่อว่า ถ้าทั้งโลกได้รู้จักพระเจ้าของเขา ก็คงไม่เกิดสงครามรบราฆ่าฟันกันขนาดนี้ ซึ่งเขาก็คิดถึงพระเจ้าของเขามากและอยากให้ท่านแสดงสิ่งดีงามให้โลกนี้ได้ประจักษ์อีกครั้ง (จะได้รักกัน ไม่ตีกัน)

แต่สุดท้ายอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด(ตามวงจรของมัน) ซึ่งเขาก็หวังอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นมัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาตายไปแล้ว เขาก็เชื่อว่าจะต้องได้พบกับบรรดาคนที่เชารักที่จากไปแล้วในโลกหลังความตายอย่างแน่นอน

ถ้าถามว่าทำไมชื่อเพลงว่า The Unknown ก็เป็นไปได้สองอย่างคือเรื่องที่ว่าเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ( Sooner or later it all comes around. Hopefully then I will see.) หรือว่าหมายถึงผู้คนทั้งหลายที่ไม่รู้จักพระเจ้าของเขานั่นเอง (Oh, my papa, If all the world could know you,)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans