แปลไทยแบบกันเอง : Imagine Dragons - I'm so sorry




About time for anyone telling you off for all your deeds
No sign. The roaring thunder stopped in cold to read

ถึงเวลาแล้วที่ทุกๆคนจะบอกให้เธอเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ แค่ทุกอย่างมันกำลังหยุดให้ได้เห็นกันแบบชัดๆ

No time
I get mine and make no excuses; waste of precious breath
No time
The sun shines on everyone, everyone love yourself to death

ไม่มีเวลาแล้ว
ฉันจะเอาสิ่งที่เป็นของฉันคืนมา ไม่มีข้อแก้ตัวอะไร แค่นี้ก็เสียลมหายใจอันมีค่ามากเกินไปละ
ไม่มีเวลาแล้ว
คนเรามันก็เหมือนกันหมด  และทุกคนก็รักตัวเองแทบเป็นแทบตายทั้งนั้น

So you gotta fire up, you gotta let go
You'll never be loved 'til you've made your own
You gotta face up, you gotta get yours
You never know the top 'til you get too low

เธอต้องกระตุ้นตัวเอง เธอต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป
เธอไม่มีทางเป็นที่รักได้หรอกนอกจากจะรักตัวเองก่อน
เธอต้องเงยหน้าขึ้น เอาสิ่งที่ควรเป็นของเธอมา
เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าจุดสูงสุดมันเป็นยังไงจนกระทั่งเธอตกต่ำเกินไปนั่นแหละ

A son of a stepfather
A son of a—
I'm so sorry
A son of a stepfather
A son of a—
I'm so sorry

ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง
ไอ้ลูก...
โอ๊ย ขอโทษจริงๆ
ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง
ไอ้ลูก...
โอ๊ย ขอโทษจริงๆนะ (อิอิ)

No lies and no deceiving, man, is what he loves
I keep tryin' to conceive that death is from above

ไม่มีการโกหก ไม่มีการหลอกลวง นั่นแหละพวก ถึงจะได้เป็นที่รัก
ฉันยังพยายามที่จะคิดว่าความตายคือสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

No time
I get mine and make no excuses; waste of precious breath
No time
The sun shines on everyone, everyone love yourself to death

หมดเวลาแล้ว
ฉันจะเอาสิ่งที่เป็นของฉันคืนมา แล้วก็จะไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น แค่นี้ก็เสียลมหายใจอันมีค่ามากเกินไปละ
ไม่มีเวลาแล้ว
คนเรามันก็เหมือนกันหมด  และทุกคนก็รักตัวเองกันทั้งนั้น

So you gotta fire up, you gotta let go
You'll never be loved 'til you've made your own
You gotta face up, you gotta get yours
You never know the top 'til you get too low

เธอต้องกระตุ้นตัวเอง เธอต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป
เธอไม่มีทางเป็นที่รักได้หรอกนอกจากจะรักตัวเองก่อน
เธอต้องเงยหน้าขึ้น เอาสิ่งที่ควรเป็นของเธอมา
เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าจุดสูงสุดมันเป็นยังไงจนกระทั่งเธอตกต่ำเกินไปนั่นแหละ

A son of a stepfather
A son of a—
I'm so sorry
A son of a stepfather
A son of a—
I'm so sorry

ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง
ไอ้ลูก...
โอ๊ย ขอโทษจริงๆ
ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง
ไอ้ลูก...
โอ๊ย ขอโทษจริงๆนะ (อิอิ)

Life isn't always what you think it'd be
Turn your head for one second and the tables turn
And I know, I know that I did you wrong,
But will you trust me when I say
That I'll make it up to you somehow, somehow

ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเสมอไปหรอกนะ
เปลี่ยนความคิดของเธอสักวินาที แล้วสถานการณ์จะเปลี่ยนไป
ฉันรู้ ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ดีต่อเธอ
แต่เธอจะเชื่อไหมถ้าฉันบอกว่า
ฉันจะชดเชยให้เธอในที่สุด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

So you gotta fire up, you gotta let go
You'll never be loved 'til you've made your own
You gotta face up, you gotta get yours
You never know the top 'til you get too low

เธอต้องกระตุ้นตัวเอง เธอต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป
เธอไม่มีทางเป็นที่รักได้หรอกนอกจากจะรักตัวเองก่อน
เธอต้องเงยหน้าขึ้น เอาสิ่งที่ควรเป็นของเธอมา
เธอไม่มีทางรู้หรอกว่าจุดสูงสุดมันเป็นยังไงจนกระทั่งเธอตกต่ำเกินไปนั่นแหละ

A son of a stepfather
A son of a—
I'm so sorry
A son of a stepfather
A son of a—
I'm so sorry

ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง
ไอ้ลูก...
โอ๊ย ขอโทษจริงๆ
ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง
ไอ้ลูก...
โอ๊ย ขอโทษจริงๆนะ (อิอิ)

I'm so sorry [3x]

ขอโทษจริงๆนะเว้ย

ออกตัวก่อนว่า การตีความใดๆต่อไปนี้เป็นความคิดของช้อยแต่เพียงผู้เดียว โปรดใช้จักรยานในการรับชม

ในระหว่างนั่งทำงานและมองหาเพลงหัวโยกเพลงนึงก็ไปเจอกับเพลงนี้ และชอบท่อนฮุคมันมากเพราะมันช่างประชดประชันดีเหลือเกิน แล้วก็พบว่านี่มันเพลงวงมังกรในจินตนาการ (Imagine Dragons น่ะ)อีกแล้วนี่หว่า ความหมายโดยรวมก็คือเป็นเพลงปลุกใจตัวเอง เหมือนตัวเองสอนตัวเองยังไงก็ไม่รู้นะในความรู้สึกเรา (เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อาเมน) ทั้งเพลงก็จะบอกเล่าทำนองว่าเราเคยทำตัวแย่ๆมาก่อน แต่มันถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้วว้อย เพราะว่าเวลาชีวิตมันเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว (อีท่อน no time นั่นแหละ)

ส่วนท่อน the roaring thunder stopped in cold to read ถ้าแปลตรงๆก็หมายความว่าเสียงฟ้าร้องช้าลงจนอ่านได้ ซึ่งในความเป็นจริงคือมันเร็วมากใช่ไหมล่ะ ก็เหมือนพฤติกรรมหรือความคิดของเราที่เวลาเราทำอะไรเราก็ไม่ได้สังเกตเพราะเราทำไปด้วยความเคยชิน ก็เลยไม่ทันคิด เหมือนเวลาเกิดเหตุอะไรก็จะได้ยินบ่อยๆว่า "มันเกิดขึ้นเร็วมาก" เพราะเราไม่ได้มีสติไปพิจารณาอะไรมันไง ทีนี้การที่เสียงฟ้าร้องมันช้าลงจนสามารถอ่านได้เป็นเดซิเบลๆ(เอาไปเทียบกับหน่วยวัดเสียง มันจะได้อ่านได้ให้สมกับการใช้คำว่าread)เนี่ย ก็เหมือนเขาเอาพฤติกรรมเรามานั่งชำแหละทีละส่วนเลยว่าไอ้ที่ว่าไม่ดีอ่ะไม่ดียังไง ทำอาการไหนยังไงบ้าง

ซึ่งท่อนต่อมาก็พอเรารู้ตัวแล้วเราก็จะทำในสิ่งที่ควรทำ โดยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆเพราะชีวิตมันก็สั้นลงไปทุกที เราไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ The sun shines on everyone หมายความว่าทุกคนก็เหมือนกันหมด เท่ากันหมด หรือได้รับโอกาสเหมือนๆกัน และทุกคนก็รักตัวเองกันทั้งนั้น

เราจึงต้องจุดไฟให้ตัวเอง ก็คือเริ่มทำในสิ่งที่ควรทำ และต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยบางอย่างที่ไม่จำเป็นไป เช่น ความคิดเห็นเชิงลบที่มาฉุดรั้งเราไว้ เราต้องรักตัวเองก่อนถึงจะเป็นที่รักได้ (บางคนไม่รักตัวเอง หรือรักไม่เป็นไง มีอะไรก็ประเคนให้คนอื่นหมด ไม่ดูแลตัวเองจนดูไม่มีคุณค่า : ไปฟังเพลงพี่แอม เสาวลักษณ์นะ 555555) เราต้องสู้ ต้องเผชิญหน้าเพื่อเอาสิ่งที่เป็นของเรามา ซึ่งเราก็จะไม่รู้เลยว่าความสำเร็จเป็นยังไงถ้าเราไม่เคยตกต่ำมาก่อน

ส่วนท่อนฮุคนี่บอกเลยว่ารู้สึกเหมือนกำลังสบถด่าตัวเองยังไงก็ไม่รู้ "ไอ้ลูกพ่อเลี้ยง" บางคนก็จะงง เอ๊ะ เจ็บตรงไหน แต่ประโยคต่อไปสำหรับเราสำนวนนี้ลอยมาเลย son of a .... จงเติมคำที่หายไป 5555 ใช่แล้ว bitch นั่นเอง แล้วความกวนตีนของมันก็คือ มันไม่ออกเสียงบิช ทำเป็นเหมือนหลุดปากพูดอ่ะคุณ แล้วก็บอกว่า อุ๊ย ขอโทษนะ แบบไม่ได้ตั้งใจพูดอ่ะแกร อิอิ เราฟังท่อนฮุคเพลงนี้ทีไรนี่แบบ โอ๊ยยยย 555555 เกลียดดดด

ท่อนต่อมาบอกว่าคนที่จะเป็นที่รักได้ ต้องไม่โกเจ็ด ไม่หลอกลวงกัน และเขาก็คิดว่า ความตายมาจากเบื้องบน ก็คือมาจากพระเจ้า หรือถ้าจะถอดอีกหน่อยก็คือมันถูกกำหนดไว้แล้ว ซึ่งเขาก็ไม่มีเวลาจะแก้ตัวอะไรสำหรับสิ่งเลวๆที่เคยทำไปหรอก แต่จะมุ่งมั่นเปลี่ยนตัวเอง ท่อน I get mine เนี่ย หมายความได้ถึงการเป็นในสิ่งที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก เช่น จริงๆเราควรจะมีชีวิตที่ดี มีหน้าที่การงานดี แต่ดันติดยาซะก่อน เอ้า ไม่เป็นไร ไม่แก้ตัว วันนี้เราจะกลับไปเป็นสิ่งที่เราควรเป็นให้ได้ อะไรเทือกๆนั้น

ชอบท่อนบริจด์ ที่บอกว่าชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ใช่ค่ะ คือมันมีเรื่องเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอ่ะ ไม่ใช่ว่าวางแผนอะไรไว้จะเป็นไปตามนั้นหมด คือเขาจะบอกว่าชีวิตมันไม่ได้ดีเสมอไป หรือเลวไปทั้งหมด บางทีมันก็โหดร้าย บางทีมันก็ไม่เป็นอย่างนั้น แค่ลองเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมอง สถานการณ์ตรงหน้ามันก็เปลี่ยนไปแล้วอ่ะ และเขาก็รู้ว่าที่ทำมาตลอดมันผิด    อ่า อันนี้สำคัญละ คือถ้าเพลงนี้เป็นการที่ "คุณ" กำลังสอนตัวเอง (เคยไหมเหมือนเวลาจะทำอะไรแล้วก็จะมีเสียงในหัวมาสอนเราอ่ะ) กำลังตำหนิตัวเอง พยายามผลักดันตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า ท่อนนี้ก็จะเป็นการขอโทษตัวเองที่ใช้ชีวิตโหล่ยโท่ยมาตลอด แต่ถ้าเพลงนี้คือการที่คุณกำลังสอนใครสักคน หรือเตือนใครสักคนด้วยวาจาอันรุนแรงประดุจควาญช้างเอาตะขอไปสับช้างเพราะหนังช้างมันหนาเกินไป สะกิดดีๆมันไม่สะเทือนเนี่ย มันก็คือการขอโทษใครคนนั้นที่ต้องพูดแรงในวันนี้ แต่มันก็คุ้มสำหรับเขาที่ได้รับรู้ความเป็นจริงและเปลี่ยนแปลงตัวเขาเพื่ออนาคตของเขาเอง

จะสอนตัวเอง หรือจะสอนคนอื่น (หรือให้คนอื่นสอน) อันนี้ก็แล้วแต่คนฟังเลยค่ะ

ใครงงคอมเมนท์ถามไว้ข้างล่างได้นะคะ 5555

ความคิดเห็น

  1. บล็อตฃคนี่แปลเพลงนี้ไม่ทำแล้วหรอครับ แปลได้สนุกน่าอ่านมาครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริงๆมีเพลงใหม่ฟังไว้เยอะเลยค่ะ (โลดแล่นไปในแอปเปิ้ลมิวสิค 5555) แต่ว่าเป็นไกด์ ตะลอนทัวร์ตลอดๆ เลยไม่ค่อยได้มีเวลาเอามาลง ถ้าอยากให้แปลเพลงไหนก็บอกไว้ได้นะคะ ^^

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans