แปลไทยแบบกันเอง : Funeral Suits - All those friendly people





Count back, anaesthetise
Colours burnt into my eyes
Life for you is shades of grey
Help me, help me find my way

นับถอยหลัง แล้ววางยาสลบ
สีสันนานาแผดเผาดวงตาของฉัน
สำหรับเธอ ชีวิตนั้นคือสีเทา
ช่วยฉันเถอะ ช่วยฉันหาทางของตัวเองที

Lost, lost, and never found
Hide your secrets, settle down
I am young and I am naive
Tell me something I will believe

หลง หลง และไม่มีวันพบ
ซ่อนความลับของเธอไว้ แล้วก็ทำตัวตามสบาย
ฉันยังเด็กและใสซื่อ
บอกอะไรฉัน ฉันก็เชื่อหมดแหละ

Take me, take me far away
From this city's soul decay
Hid away 'til I was eighteen
Only saw colours on a TV screen

พาฉัน พาฉันไปห่างไกล
จากวิญญาณอันเสื่อมโทรมของเมืองนี้
ซ่อนฉันไว้จนกระทั่งอายุ18
ให้เห็นเพียงสีสันจากบนจอทีวี

Skinny jeans and sunglasses
A fashion statement for the masses
What you're doing makes me sick
Over hyped and generic

ยีนส์รัดรูป และแว่นกันแดด
เป็นแฟชั่นที่นิยมในหมู่มวลชนทั้งหมาย
สิ่งที่เธอทำน่ะมันทำให้ฉันรู้สึกแย่
โคตรหลอกลวง และไม่ได้พิเศษอะไรเลย

Shine, shine, like the sun
Spread your warmth through everyone
I asked you why people die
You said we all had a design

เปล่งประกายราวกับแสงตะวัน
แผ่ความอบอุ่นให้ทั่วทุกคน
ฉันถามเธอว่าทำไมผู้คนถึงต้องตาย
เธอบอกว่าเราล้วนต่างถูกกำหนดไว้แล้ว

Slide into the sea
Landslide comin' down on me
I said I was into you
You said you were into me

ลื่นลงสู่ทะเล
แผ่นดินถล่มพังลงมาทับฉัน
ฉันบอกว่าฉันแคร์เธอนะ
เธอตอบลว่าเอเองก็เช่นกัน

You never answer on the phone
With your nicotine lips and your heart of stone
I look for you by the underpass
Looks like this love wasn't meant to last

เธอไม่เคยรับสายโทรศัพท์
ด้วยริมฝีปากนิโคติน และหัวใจที่ด้านชาของเธอ
ฉันมองหาเธอในเส้นทางใต้ดิน
ดูเหมือนว่าความรักนี้จะไม่คงอยู่ตลอดไป

You said you reap just what you sow
So tell me where does your garden grow
You said in time the pain would pass
Looks like the end is here at last

เธอบอกว่าเธอจะเก็บเกี่ยวแค่เฉพาะสิ่งที่เธอหว่าน
ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกฉันทีเถอะว่า สวนของเธออยู่ที่ไหน
เธอบอกว่าเวลาจะทำให้ความเจ็บปวดหายไป
นั่นดูเหมือนว่าในที่สุดจุดจบก็มาถึงแล้ว

Burn, burn, like a star
Burn a hole in every heart
Strung out on a trail of blood
Who knew the stars were not enough?

เผาไหม้เหมือนกับดวงดาว
เผาไหม้หัวใจให้เป็นรู
แผ่ขยายเส้นทางเลือดออกไป
ใครจะรู้ล่ะว่าแค่ดวงดาวนั้นก็ยังไม่พอ?

Smile, smile if you can
If you can't, I'll understand
See these stitches in my eyes
Smash computers, kill rock stars

ยิ้ม ยิ้มสิถ้าเธอทำได้
ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันก็พอจะเข้าใจ
เห็นรอยเย็บในตาฉันไหม
พังคอมทิ้งไป แล้วก็ฆ่าร็อคสตาร์

Purge the past and waste my mind
Leave no scent or trace behind
One day when you bury me
When I wake up, what will I see?

ลางบาปให้อดีต และเสียสติไป
ไม่ทิ้งแม้กลิ่นหรือร่องรอยเอาไว้
วันหนึ่งเมื่อเธอฝังฉัน
เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันจะเห็นอะไร?

Down, down, underground
Dig for fire, dig for sound
What is on the radio?
'Cause I would like to say hello

ลึกลงไปข้างในพื้นดิน
ขุดเพื่อแสง ขุดเพื่อเสียง
วิทยุเล่นอะไรอยู่น่ะ?
เพราะฉันอยากจะกล่าวทักทายมันสักหน่อย

Crawl, crawl through the dirt
Jesus, show me what you're worth
Can't you just send us a sign?
Tell us all that we're doing fine

คลานกระเสือกกระสนผ่านอาจมทั้หลาย (=สิ่งสกปรก)
พระเจ้าบอกฉันทีว่าเธอควรคู่กับอะไร
ท่านจะส่วนส่งสัญญาณมาบอกเราหน่อยได้ไหม?
บอกเราทีว่าที่เราทำน่ะมันดีแล้ว

Nights for sitting in the dark
Days for lying in the park
Wake me up from my sick dream
A requiem for this dead scene

นั่งอยู่ในความมืดมิดของราตรี
ทอดกายอยู่ในสวนยามกลางวัน
ปลุกฉันจากความฝันป่วยๆของฉันทีสิ
เพลงสวดส่งวิญญาณสำหรับฉากการตายนี้

You never answer on the phone
With your nicotine lips and your heart of stone
I look for you by the underpass
Looks like this love wasn't meant to last

เธอไม่เคยรับสายโทรศัพท์
ด้วยริมฝีปากนิโคติน และหัวใจที่ด้านชาของเธอ
ฉันมองหาเธอในเส้นทางใต้ดิน
ดูเหมือนว่าความรักนี้จะไม่คงอยู่ตลอดไป

You said you reap just what you sow
Well tell me where does your garden grow
You said in time the pain would pass
Looks like the end is here at last

เธอบอกว่าเธอจะเก็บเกี่ยวแค่เฉพาะสิ่งที่เธอหว่าน
ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกฉันทีเถอะว่า สวนของเธออยู่ที่ไหน
เธอบอกว่าเวลาจะทำให้ความเจ็บปวดหายไป
นั่นดูเหมือนว่าในที่สุดจุดจบได้มาถึงแล้ว

Count back, anaesthetise
Colours burnt into my eyes
Life for you is shades of grey
Help me, help me find my way

นับถอยหลัง แล้ววางยาสลบ
สีสันนานาแผดเผาดวงตาของฉัน
สำหรับเธอ ชีวิตนั้นคือสีเทา
ช่วยฉันเถอะ ช่วยฉันหาทางของตัวเองที

Mother, can't you help me now?
'Cause I've been drowning in the sound
Lying on the motorway
Writing songs and wasting away

แม่ แม่ช่วยผมตอนนี้เลยไม่ได้หรอ?
เพราะว่าผมจมจ่อมอยู่ในเสียงมานาน
นอนลงบนทางด่วน
เขียนบทเพลง และหมดแรงไป

            ชอบเพลงนี้เป็นการส่วนตัว ชอบทำนอง (เราว่ามันค่อนข้างติดหูเลยแหละ) ชอบความหมาย ชอบMV มันเห็นภาพการดิ้นรนและความลวงหลอกชัดดี และค่อนข้างจิตเบาๆ หมายถึง MVมีสัญลักษณ์ของความโรคจิตอยู่น่ะค่ะ ทั้งการลักพาตัว หน้ากาก การถูกชักจูง เส้นทางที่ว่างเปล่า คนใส่หน้ากากหมู และท่าทางของตัวแสดงต่างๆที่เหมือนดูหนังโรคจิตอยู่ ส่วนเนื้อเพลงก็จิตพอๆกับMV ถ้าใครดูหนังแนวฆาตกรรมบ่อยๆ พวกฆาตกรโรคจิตจะให้ความรู้สึกบิดเบี้ยวจากเรื่องเรื่องราวในอดีต เพลงนี้ก็ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันค่ะ เหมือนจะปกติ แต่ก็ไม่ปกติ บางท่อนก็โรคจิต บางท่อนก็เล่าอดีตที่เจ็บช้ำ

สรุปย่อๆคือเล่าเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของเขาที่มันต่างจากปรกติอันเนื่องมาจากการเลี้ยงดูและปมชีวิตในอดีต ทั้งการถูกเลี้ยงดูจากคนที่มองโลกในแง่ร้าย ทำให้หนุ่มน้อย(อิงตามคนร้องละกันเนอะ)หาทางของตัวเองไม่พบซะที ซึ่งอีตาคนเลี้ยงก็ไม่ยอมบอกความจริงบางอย่าง ซ่อนไว้เอาแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยความเด็กและไร้เดียงสา พอถูกบอกอะไรที่นี้ก็เชื่อหมดเลยจ้า

วิถีชีวิตของเด็กคนนี้ถูกแยกออกจากสังคม ให้อยู่กับแค่อีคนเลี้ยงแหละจน18 รู้เรื่องโลกภายนอกผ่านจอทีวีเท่านั้น ซึ่งตาเด็คนนี้ก็มองแฟชั่นของโลกภายนอกว่าหลอกลวงกันสุดๆทั้งๆที่มันก็แค่เสื้อผ้า ไม่มีอะไรพิเศษเลย

ในสายตาเด็กคนนี้คนเลี้ยงเป็นคนอบอุ่นมากๆ แต่เมื่อเขาตั้งคำถามต่างๆ คำตอบที่ได้รับกลับไม่ช่วยให้หายสงสัยหรือข้องใจได้เลย เมื่อเกิดภาวะวิกฤต เขาเชื่อใจและไว้ใจคนเลี้ยง ซึ่งคนเลี้ยงก็บอกเขาแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงๆแล้วคนเลี้ยงไม่เคยใส่ใจอะไรเลย มีเพียงคำพูดดีๆที่เป็นเหมือนสารเสพติดเท่านั้น พ่อหนุ่มเลยรู้ว่าดูเหมือนว่าความรักนี้จะเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง และยิ่งพูดคุยยิ่งรู้จัก เขาก็ยิ่งพบว่ามันใกล้จะถึงจุดจบ(ของความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาที่มีต่อคนคนนั้น)มากขึ้นทุกที

จากนั้นก็ว่าด้วยความผิดหวังและความเจ็บปวดแล้วค่ะ ซึ่งจุดนี้มันผลักให้โลกของเขามันบิดเบี้ยว(ไม่รู้จะใช้คำไหนดี คำนี้ให้ภาพของเนื้อหาเพลงชัดสุดละ) เช่นท่อนดาวตก ต้องการจะบอกว่าแค่ดวงดาวถูกแผดเผายังไม่พอ ยังสร้างความเจ็บปวดให้คนอื่นๆไปทั่วด้วย ส่วนท่อนยิ้มก็เหมือนฉากฆาตกรโรคจิตในหนังคุยกับเหยื่อน่ะค่ะ ทำให้กลัวสุดๆแล้วก็ทำขอให้เขายิ้ม พอเขาไม่ยิ้มก็ทำลายสิ่งรอบข้างอื่นๆ เป็นต้น


เพลงนี้ออกแนวเพราะเป็นผู้ถูกกระทำจึงเจ็บปวด และจึงทำไปทำคนอื่นต่อก็จะอธิบายคร่าวๆไว้แค่นี้นะคะเพราะว่ารายละเอียดมันเยอะมากจริงๆ แล้วส่วนตัวเราว่าแต่ละคนตีความเองจะสนุกกว่า 555 แต่ไม่ว่าเพลงนี้จะหมายความว่ายังไงเราก็ชอบมันอยู่ดีล่ะค่ะ โดยเฉพาะชื่อเพลง Those Friendly People (บรรดาคนแสนดีทั้งหลาย) มันจิกกัดเสียดสีดีค่ะ ถ้าจะแปลเนื้อความให้ตรงตามชื่อเพลง ก็เปลี่ยนจาก คนเลี้ยงเป็น คนที่เข้ามาทำดีกับเรา แบบนั้นก็ได้ค่ะ ^^
----------------------

คำศัพท์


            Anaesthetize >> Anaesthetic : ที่ทำให้สลบ ยาสลบ ยาชา

            Hype : หลอกลวง โฆษณาโอ้อวดเกินจริง กระตุ้น

            Generic : ทั่วๆไป

            I was into you : ฉันสนใจคุณ ใส่ใจคุณ หรือแคร์คุณก็ได้ค่ะ

            Strung out >> String out : ถ้า string เฉยๆหมายถึงเว้นด้าย สายธนู หรืออะไรที่มีลักษณะเป็นเส้น ถ้าสอองคำติดกันจะหมายถึง ยืดออกไป ทำให้แผ่ขยายออกไป หรือหมายถึงการติดยาอย่างรุนแรงก็ได้ค่ะ

            Purge : ชำระล้าง ทำให้บริสุทธิ์

            Requiem : เพลงสวดส่งวิญญาณ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans