แปลไทยแบบกันเอง : Florence + The Machine - Mother





Oh lord, won't you leave me
Leave me on my knees
Cause I belong to the ground now
And it belongs to me

พระเจ้า ทำไมท่านจะไม่ปล่อยฉันไว้เล่า
ปล่อยให้ฉันอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง
เพราะตอนนี้ฉันได้ยืนบนพื้นดินอีกครั้ง
และมันควรจะเป็นแบบนั้น

And oh lord, won't you leave me
Leave me just like this
Cause I belong to the ground now
I want no more than this

โอ้ พระเจ้า ทำไมท่านไม่ปล่อยฉันไป
ปล่อยฉันไว้แบบนี้
เพราะตอนนี้ฉันได้ยืนอยู่บนพื้นดินอีกครั้ง
ฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้

How I long for the older
The sun keeps burning deep
Every stone in this city keeps reminding me
Can you protect me from what I want?
The love I let in, it left me so lost

ฉันจะอยู่ยืนยาวไปจนแก่ได้ยังไงกันนะ?
พระอาทิตย์ยังคงแผดเผา
ก่อนหินทุกก่อนในเมืองนี้ทำให้ฉันยังคงนึกถึงบางอย่าง
ท่านจะช่วยปกป้องฉันจากสิ่งที่ฉันต้องการได้รึเปล่า?
ความรักที่ฉันรับมันเข้ามา มันทิ้งฉันไว้ให้สิ้นหวังเสียเหลือเกิน

Mother, make me
Make me a big tall tree
So I can shed my leaves and let it blow through me
Mother, make me
Make me a big grey cloud
So I can rain on you things I can't say out loud

แม่สร้างให้ฉัน
สร้างให้ฉันเป็นต้นไม้สูงใหญ่
เพื่อที่ฉันจะแผ่กิ่งก้านใบ และให้ลมพัดผ่านไป
แม่สร้างฉันขึ้นมา
สร้างฉันขึ้นมาให้เป็นมวลหมู่เมฆฝน
เพื่อที่ฉันจะได้สาดสายฝนลงบนตัวเธอ แทนที่ในส่วนที่ฉันไม่สามารถพูดออกไปดังๆได้

All these couples are kissing
And I can't stand the heat
I lost my shoes and left the party
I wander in the street

คู่รักเหล่านี้ต่างจุมพิตกัน
ฉันทนดูมันไม่ได้หรอก
ฉันทำรองเท้าหาย และออกจากงานปาร์ตี้
และเดินเตร่ไปตามถนน

I put my feet into the fountain
The statues all asleep
No use wishing on the water
It grants you no relief

ฉันจุ่มเท้าลงในน้ำพุ
รูปสลักทั้งหมดต่างหลับใหล
ไม่ได้มีความหวังในๆบนผืนน้ำนั้น
สิ่งที่มีให้คือความผ่อนคลายทางใจ

Mother, make me
Make me a bird of prey
So I can rise above this, let it fall away
Mother, make me
Make me a song so sweet
Heaven trembles, fallen at our feet

แม่สร้างฉันขึ้นมา
สร้างให้ฉันเป็นนกนักล่า
เพื่อที่ฉันจะได้ขึ้นไปให้สูงเหนือทุกสิ่ง แล้วก็ทิ้งมันลงมา
แม่ให้กำเนิดฉัน
ให้เป็นบทเพลงที่แสนอ่อนหวาน
ให้สวรรค์สั่นสะเทือน และล่มสลายลงมากองแทบเท้าเรา

Oh lord, won't you leave me
Leave me on my knees
Cause I belong to the ground now
And it belongs to me

พระเจ้า ทำไมท่านจะไม่ปล่อยฉันไว้เล่า
ปล่อยให้ฉันอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง
เพราะตอนนี้ฉันได้ยืนบนพื้นดินอีกครั้ง
และมันควรจะเป็นแบบนั้น

And oh lord, won't you leave me
Leave me just like this
Cause I belong to the ground now
I want no more than this

โอ้ พระเจ้า ทำไมท่านไม่ปล่อยฉันไป
ปล่อยฉันไว้แบบนี้
เพราะตอนนี้ฉันได้ยืนอยู่บนพื้นดินอีกครั้ง
ฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้

Oh lord, won't you leave me
Leave me on my knees
Cause I belong to the ground now
And it belongs to me

พระเจ้า ทำไมท่านจะไม่ปล่อยฉันไว้เล่า
ปล่อยให้ฉันอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง
เพราะตอนนี้ฉันได้ยืนบนพื้นดินอีกครั้ง
และมันควรจะเป็นแบบนั้น

Oh lord, won't you leave me
Leave me just like this
Cause I belong to the ground now
I want no more than this

โอ้ พระเจ้า ทำไมท่านไม่ปล่อยฉันไป
ปล่อยฉันไว้แบบนี้
เพราะตอนนี้ฉันได้ยืนอยู่บนพื้นดินอีกครั้ง
ฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้

            เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ประทับใจและฟังได้เรื่อยๆในอัลบั้มล่าสุดของนาง เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังแล้วปลุกใจให้ภูมิใจในตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง(ตอนแรกคิดแบบนั้น) แต่แปลไปแปลมาก็พบว่ามันมีพลังงานมืดอยู่หน่อยๆ เพราะนางเจ็บมามากก็เลยจะขอสตรองสักหน่อยนั่นเอง

            เพลงนี้ตีความโดยสรุปคือนางผิดหวังกับความรักมาหนักมาก (The love I let in, it left me so lost) ก็เลยขอพระเจ้าว่าอย่าช่วยเหลือเธอเลย ปล่อยเธอไว้แบบนี้เถอะ ให้เธอลำบาก ให้เธอเจ็บ เพราะเธอไม่อยากรักใครอีกแล้ว ให้เธอได้ยืนอยู่บนพื้นดิน (I belong to the ground now) หมายถึงกลับเป็นตัวของตัวเอง เพราะตอนมีความรักมันเหมือนล่องลอยใช่ไหมคะ การยืนบนพื้นหมายถึงได้ใช้ชีวิต เผชิญกับความจริง เผชิญกับความยากลำบาก ขอพระเจ้าอย่าได้ช่วยเหลือเธอเลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด

            เธอนึกไม่ออกว่าจะใช้ชีวิตต่อไปจนแก่ยังไง เพราะทุกอย่างในเมืองมันทำให้เธอนึกถึงความรักที่เจ็บปวดนั้น และเธอขอให้พระเจ้าช่วยเธอไม่ได้ได้พบกับสิ่งที่เธอต้องการ ซึ่งก็คือความรัก เพราะมันเจ็บปวดเกินไป (Can you protect me from what I want? The love that I let in left me so lost.)

            แล้วเธอก็ปลุกในตัวเองว่า แม่น่ะสร้างให้ฉันเกิดมาเป็นคนแข็งแกร่งเหมือนต้นไม้ ทนแดดทนฝน สร้างให้เป็นเมฆฝน ให้ไปเอาเรื่องเธอได้ (ในเพลงบอก So I can rain on you things I can't say out loud. คือในชีวิตจริงด่าไม่ได้ ก็ให้เป็นเมฆฝนไปตกหนักๆ กระหน่ำใส่เธอ ให้เสียงฝนแทนสิ่งที่เธออยากจะพูดนั่นเอง) สร้างให้เธอเป็นนกนักล่า (prey แปลว่า เหยื่อ หรือพวกสัตว์นักล่านะคะ ระวังสับสนกับสวดมนต์ pray ) มีอำนาจอยู่เหนือทุกปัญหา สร้างให้เธอเป็นบทเพลงที่อ่อนหวานจนสวรรค์ยังถล่มลงมา การเปรียบเทียบลักษณะนี้เป็นการให้คุณค่า หรือพยายามปลุกใจให้เห็นคุณค่าในตัวเองและเริ่มใช้ชีวิตอีกครั้งนึงค่ะ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า กลับมาฮึดสู้อีกครั้ง ประมาณนั้น


            เล่าย้อนไป Verse 2 ท่อน All these couples are kissing... คือคนเจ็บเพราะรัก พอเห็นคนอื่นอินเลิฟก็รำคาญหูรำคาญตาหนีออกมาจากงานทั้งๆที่รองเท้าหายไป (ไม่รู้ว่าโกรธแล้วเอาไปปาหัวใครรึเปล่านะ 5555) แล้วก็เดินเรื่อยๆไปตามท้องถนนจนเจอบ่อน้ำพุ ซึ่งในธรรมเนียมฝรั่งเขาเป็นพวกเห็นบ่อน้ำไม่ได้ จะโยนเหรียญอธิฐานแม่งทุกที่ไป (เคยมีข่าวไปโยนเข้าปากจระเข้ด้วยอ่ะ เพื่ออะไร? ขอพรจระเข้หรอ??? // โกรธเพราะจระเข้มักจะกลืนเหรียญเข้าไปแล้วตายค่ะ -*-) นางก็ไปนั่งจุ่มเท้ามองดูรูปปั้น แล้วก็บอกว่า บ่อน้ำมันทำให้สมหวังอะไรไม่ได้หรอก มันทำได้แค่สร้างความสบายใจให้คนของพรเท่านั้นเอง พูดแบบนี้ก็ถูกของนางนะคะ แต่มองได้อีกแง่นึงคือแสดงว่า นางก็ต้องเคยขอและมันไม่สมหวัง ถึงพูดแบบนี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทยแบบกันเอง : Adele – Remedy

แปลไทยแบบกันเอง : Jack Johnson - Monsoon