แปลไทยแบบกันเอง : Adele - Hiding My Heart
This
is how the story went
I
met someone by accident
It
blew me away
Blew
me away
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เมื่อฉันพบใครบางคนโดยบังเอิญ
นั่นแทบทำให้ฉันล่องลอยไป
มันทำให้ฉันล่องลอยไป
It
was in the darkest of my days
When
you took my sorrow and you took my pain
And
buried them away, you buried them away
ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของฉัน
แต่เธอก็เอาความเศร้าเสียใจและเจ็บปวดของฉันไป
และฝังมันเอาไว้
เธอฝังมันไป
I
wish I could lay down beside you
When
the day is done
And
wake up to your face against the morning sun
But
like everything I've ever known
You
disappear one day
So
I spend my whole life hiding my heart away
ฉันหวังว่าฉันจะสามารถทอดกายลงข้างเธอได้
เมื่อแต่ละวันสิ้นสุดลง
และตื่นขึ้นมาเห็นหน้าเธอภายใต้แสงแดดยามเช้า
แต่ก็เหมือนทุกอย่างที่ฉันเคยรู้จัก
วันหนึ่ง
เธอก็หายตัวไป
ฉันจึงใช้ชีวิตที่เหลือในการซ่อนความรู้สึกของหัวใจไว้ให้ไกลตัว
Dropped
you off at the train station
Put
a kiss on top of your head
Watch
you wave
And
watched you wave
พาเธอไปส่งที่สถานีรถไฟ
จุมพิตลงบนหน้าผากของเธอ
มองเธอจากไป
และก็ได้แต่มองเธอจากไป
Then
I went on home to my skyscrapers
And
neon lights and waiting papers
That
I call home
I
call that home
จากนั้นฉันก็ออกจากบ้าน
มาสู่ตึกระฟ้าในเมืองใหญ่
ท่ามกลางแสงไฟนีออนและกองเอกสารที่ท่วมท้น
นี่คือที่ที่ฉันเรียกว่าบ้าน
ฉันเรียกมันว่าบ้าน
I
wish I could lay down beside you
When
the day is done
And
wake up to your face against the morning sun
But
like everything I've ever known
You
disappear one day
So
I spend my whole life hiding my heart away, away
ฉันหวังว่าจะสามารถทอดกายลงเคียงข้างเธอได้
เมื่อวันได้สิ้นสุดลง
และตื่นขึ้นมาพบหน้าเธอภายใต้แสงแดดยามเช้า
แต่ก็เหมือนทุกอย่างที่ฉันเคยรู้จัก
วันหนึ่ง
เธอก็หายตัวไป
ฉันจึงใช้ชีวิตที่เหลือในการซ่อนความรู้สึกของหัวใจไว้ให้ไกลตัว
Woke
up feeling heavy-hearted
I'm
going back to where I started
The
morning rain, the morning rain
And
though I wish that you were here
On
that same old road that brought me here
It's
calling me home, It's calling me home
ตื่นขึ้นมาด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง
ฉันกลับไปสู่ที่ที่ฉันเริ่มต้น
เช้าวันฝนพรำ
ในเช้าวันฝนพรำ
และคิดหวังให้เธอมาอยู่ตรงนี้
บนเส้นทางสายเดิมที่พาฉันมาที่นี่
ถนนนี้เรียกฉันกลับบ้าน
มันเรียกฉันกลับบ้าน
I
wish I could lay down beside you
When
the day is done
And
wake up to your face against the morning sun
But
like everything I've ever known
You
disappear one day
So
I spend my whole life hiding my heart away
I
can't spend my whole life hiding my heart away
ฉันหวังว่าจะสามารถทอดกายลงเคียงข้างเธอได้
เมื่อวันได้สิ้นสุดลง
และตื่นขึ้นมาพบหน้าเธอภายใต้แสงแดดยามเช้า
แต่ก็เหมือนทุกอย่างที่ฉันเคยรู้จัก
วันหนึ่ง
เธอก็หายตัวไป
ฉันจึงใช้ชีวิตที่เหลือในการซ่อนความรู้สึกของหัวใจไว้ให้ไกลตัว
โคตรเศร้า
ทั้งเศร้า ทั้งเหงา
ทำนองนี่สุดบิ้ว ยิ่งแปลแล้วแต่ละบรรยากาศนี่แบบ
ว้อยยยยยยย เศร้าเกินไปแล้วววว ลองนึกภาพบรรยากาสต่างประเทศนะคะ ที่อากาศทึมๆ
ท้องฟ้าเป็นสีเทา บ้านเมืองซึมเซา ในวันเหงาๆเหลาเหย่ของคุณ (ภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่าแก่หมดเรี่ยวหมดแรง)
แล้วคุณก็เจอคนคนนึงเข้ามาในชีวิต ซึ่งคุณประทับใจเขามากเลยทีเดียว (Blew me away แปลว่าประทับใจค่ะ
แต่เราแปลตรงตัวเพราะมันเห็นภาพชัดกว่าว่าการเจอคนบางคนทำให้คุณเหมือนล่องลอยไปไกลแสนไกล..)
เขาเข้ามาทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
จะด้วยวิธีการรับฟังหรืออะไรก็ตามแต่
ซึ่งก็ประทับใจและไว้ใจมากจนอยากจะมีเขาเคียงข้างทั้งยามหลับและยามตื่น (การที่เราให้ใครสักคนนอนด้วยนี่แสดงว่าต้องไว้ใจในระดับหนึ่งค่ะ
// ปล. นอนเฉยๆ ไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้นะคะ เช่น เพื่อน ถ้าไม่สนิทก็จะไม่ใช้ใจให้นานเตียงเดียวกันเป็นต้น
แต่ในเพลงนี่เหมือนจะสื่อว่ารักและผูกพันธ์มาก) แต่มันก็ลงเอยเหมือนทุกอย่างในชีวิตคุณ
คือวันหนึ่ง เขาก็หายไป โดยที่คุณไม่เคยบอกความในใจ
คุณก็เลยต้องซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ไปตลอดชีวิต (บางทีคุณอาจจะซึน ปากแข็ง
หรือไม่สบโอกาส แต่ถ้าดูจากบริบทของเพลงที่บอกว่า like everything
I've ever known
ก็แสดงว่าคนร้องเนี่ยต้องเป็นคนที่ไม่แสดงความรู้สึกเท่าไหร่ เพราะเจอแบบนี้มาตลอดชีวิต)
คุณไปส่งเขาเองที่สถานีรถไฟ จูบลาที่หน้าผาก แล้วมองเขาจากไป
(ใจโคตรเด็ดไม่พูดอะไรเลย) ซึ่งการจูบที่หน้าผากหมายถึง ความเอ็นดู รักและอยากทะนุถนอม
หรือบางทีอาจเป็นเพราะแสดงออกได้แค่นี้ก็ได้ค่ะ -..- แล้วคุณก็ย้ายเข้าไปในเมือง
อยู่คนเดียวและก็ทำแต่งาน (ส่วนใหญ่คนอยู่คอนโดจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่มักอยู่คนเดียวน่ะค่ะ
แล้วกองเอกสารก็หมายถึงงานด้วย)
แล้ววันหนึ่ง ใจของคุณก็เกินจะรับไหว
มันซ่อนไว้ไม่ได้อีกแล้ว คุณจึงกลับไปที่เดิมที่เคยเจอกับใครคนนั้น ในเช้าวันฝนพรำ
ซึ่งคุณเคยเจอเขาที่นี่ และบรรยากาศมันก็ทำให้คุณคิดถึงเขามากจนอยากให้เขาอยู่ตรงนี้
ความทรงจำของคุณพาคุณกลับไป ณ จุดนั้น และกำลังเรียกคุณให้กลับไปที่ ‘บ้าน’
เดิมของคุณ ที่คุณเคยมีความทรงจำอันล้ำค่า...
แต่ว่าเขาก็ได้จากคุณไปแล้ว คุณจึงต้องเก็บความรักที่ไม่เคยได้เอ่ยเอาไว้ในใจตลอดไปและทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
(มันhide
away น่ะค่ะ มันไม่ hide เฉยๆ awayมันมีภาวะของการเอาออกไฟให้พ้นทางด้วยเราเลยแปลออกมาแบบนี้)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น