แปลไทยแบบกันเอง : The Lumineers – Cleopatra





I was Cleopatra, I was young and an actress
When you knelt by my mattress, and asked for my hand
But I was sad you asked it, as I laid in a black dress
With my father in a casket, I had no plans

ฉันเคยเป็นคลีโอพัตรา ฉันเคยเป็นนักแสดงสาว
เมื่อเธอคุกเข่าลงในขณะที่ฉันสวมผ้าคลุมหน้า และขอมือฉัน
แต่ฉันกลับโศกเศร้าที่เธอขอมัน ในตอนที่ฉันใส่ชุดสีดำ
พร้อมด้วยพ่อของฉันที่นอนอยู่ในโลงศพ ฉันคิดอะไรไม่ออก

And I left the footprints, the mud stained on the carpet
And it hardened like my heart did when you left town
But I must admit it, that I would marry you in an instant
Damn your wife, I'd be your mistress just to have you around

ฉันจึงทิ้งรอยเท้าไว้ โคลนเป็นรอยเปื้อนอยู่บนพรม
และมันแข็งขึ้นเหมือนหัวใจของฉันในยามที่เธอจากเมืองนี้ไป
แต่ฉันต้องยอมรับมัน ว่าฉันน่าจะแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด
-วยเมียมึงเหอะ ฉันควรจะเป็นคนรักของเธอ ขอเพียงแค่มีเธออยู่ข้างๆ

[Chorus]
But I was late for this, late for that, late for the love of my life
And when I die alone, when I die alone, when I die I'll be on time

แต่ฉันสายไปแล้วสำหรับนี่ ช้าไปสำหรับนั่น ล่วงเลยมานานสำหรับความรักของชีวิตฉัน
และเมื่อฉันตายเพียงลำพัง เมื่อฉันตายลำพัง เมื่อฉันตาย ฉันก็จะไปทันเวลาเสียที

[Verse 2]
While the church discouraged, any lust that burned within me
Yes my flesh, it was my currency, but I held true
So I drive a taxi, and the traffic distracts me
From the strangers in my backseat, they remind me of you

ขณะที่ความเชื่อไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ทุกความปรารถนาแผดเผาอยู่ในกายฉัน
ใช่ เนื้อหนังของฉัน มันเคยสร้างรายได้ให้ แต่ฉันเก็บความจริงนี้ไว้
ฉันจึงขับแท็กซี่ และสภาพการจราจรก็ดึงความสนใจของฉัน
ไปจากคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่เบาะหลัง พวกเขาเตือนให้ฉันนึกถึงเธอ

[Chorus]
But I was late for this, late for that, late for the love of my life
And when I die alone, when I die alone, when I die I'll be on time

แต่ฉันสายไปแล้วสำหรับนี่ ช้าไปสำหรับนั่น ล่วงเลยมานานสำหรับความรักของชีวิตฉัน
และเมื่อฉันตายเพียงลำพัง เมื่อฉันตายลำพัง เมื่อฉันตาย ฉันก็จะไปทันเวลาเสียที

[Bridge]
And the only gifts from my Lord were a birth and a divorce
But I've read this script and the costume fits, so I'll play my part

ของขวัญเพียงสิ่งเดียวที่พระเจ้าประทานให้คือการเกิดและการแยกจาก
แต่ฉันเคยอ่านบทและลองชุดเหล่านั้นแล้ว ดังนั้นฉันจะแสดงในส่วนของฉัน

[Verse 3]
I was Cleopatra, I was taller than the rafters
But that's all in the past now, gone with the wind
Now a nurse in white shoes leads me back to my guestroom
It's a bed and a bathroom
And a place for the end

ฉันเคยเป็นคลีโอพัตรา ฉันเคยสูงยิ่งกว่าหลังคา
แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว ไปกับสายลม
ตอนนี้นางพยาบาลในรองเท้าสีขาวนำฉันกลับไปยังห้องพักของฉัน
มีเพียงเตียง ห้องน้ำ
และสถานที่สำหรับจุดจบ

[Outro]
I won't be late for this, late for that, late for the love of my life
And when I die alone, when I die alone, when I die I'll be on time

แต่ฉันสายไปแล้วสำหรับนี่ ช้าไปสำหรับนั่น ล่วงเลยมานานสำหรับความรักของชีวิตฉัน
และเมื่อฉันตายเพียงลำพัง เมื่อฉันตายลำพัง เมื่อฉันตาย ฉันก็จะไปทันเวลาเสียที

            เจอเพลงนี้เพราะยูทูปมันแนะนำมาค่ะ ประกอบกับภาพปกมันชวนดูเลยกดเข้าไปฟัง(เพราะยายมีความสวย) ฟังไปฟังมา เฮ้ย มันเศร้า ทำไมมันเศร้างี้วะ ทำไมเพลงเศร้าลึกๆแม่งชอบมีทำนองกึ่งๆสนุกเหมือนเอาไว้ให้หัวเราะเยาะตัวเอง หรือหัวเราะปลอบใจ หรือจะเป็นความเศร้าของคนที่มองโลกในแง่ดี (ตอนเพลงของวงพี่หมี Bear's Den - Above The Clouds Of Pompeii ก็ทีละ ทำนองโคตรสดใส แต่เนื้อเพลงกับMVอย่างเศร้า) อันนี้ไม่รู้อะไรทั้งนั้นค่ะ รู้แค่มันเศร้าอย่างประหลาด แค่ทำนองที่มีกลิ่นคันทรีผสมป๊อบสนุกๆก็ทำให้เศร้าตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งใจแปลเนื้อเพลงจริงจังแล้ว MVก็ความหมายดี เราไม่เคยนึกถึงมุมมองของคนขับแท็กซี่เลยนะว่าวันๆนึงจะได้เห็นอะไรเยอะแยะแบบนี้ หรือเขาเคยเป็นใครทำอะไรมาก่อน (นั่งอย่างเดียวไง 5555) ก็เลยมาแปลเผื่อใครบังเอิญมาเจอเพลงนี้เหมือนกันนะคะ ^^

            เนื้อเพลงเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเป็นนักแสดงสาวที่สวยมากๆ (เปรียบความสวยตัวเองกับคลีโอพัตรากันเลยทีเดียว) แต่วันหนึ่งชีวิตก็พลิกผัน พ่อตาย แล้วคนรักของเธอก็ดันมาขอแต่งงานในวันนั้นอีก! (แหม่...เลือกจังหวะขอได้ดีจริมๆ) สาวเจ้ายังทำใจไม่ได้ ก็เลยปฏิเสธไป แล้วก็ออกไปใช้ชีวิตลำพัง  ซึ่งก็เป็นการจากไปสู่ความยากลำบาก (โคลนเป็นสัญลักษณ์ของความยากลำบาก) เวลาผ่านไปสาวเจ้าก็ค้นพบว่าตัวเองคิดผิดถนัด รู้งี้น่าจะเลือกแต่งงานกับคนรักของเธอไปซะตั้งแต่วันนั้น เพราะเมื่อเธอกลับมาจากการใช้ชีวิตเพียงลำพัง เธอก็พบว่าเขาแต่งงานแล้ว (ในMVมีลูกชายแล้วด้วย) มันก็เลยทำให้เธอรู้สึกว่าในชีวิตเธอนั้น เธอได้ตัดสินใจพลาดไปหมดซะทุกอย่าง อะไรๆก็ไม่ทันการณ์สักเรื่อง เธอจึงคิดว่าเมื่อเธอตาย คงจะเป็นวันที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียที

            พอเธอหวังพึ่งศาสนา มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น มิหนำซ้ำยังมีความปรารถนามากมายอยู่ในใจอีกต่างหาก ทุกอย่างมันจึงเหมือนมีแต่แย่กับแย่ แม้จะเคยสาวเคยสวย แต่เวลามันก็ล่วงเลยไปแล้ว เธอจึงไม่ได้บอกใครว่าเธอเคยเป็นใครมาก่อน ส่วนบรรดาผู้โดยสารที่พบเห็นอยู่บ่อยๆก็มีแต่จะทำให้คิดถึงอดีต เธอจึงหันไปสนใจกับสิ่งต่างๆนอกรถมากกว่าเพื่อที่จะได้ไม่นึกถึงเรื่องเก่าๆ

            การเกิดและการแยกจากเป็นสัจธรรมของชีวิต ซึ่งตัวเธอนั้นก็ได้รู้ ได้เห็น (อ่านบท) และได้เป็น (ลองชุด) มาหลายอย่างแล้ว ต่อจากนี้ เธอก็จำทำหน้าที่ของตัวเองตามเส้นทางที่เลือกมานี้ให้ดี (I'll play my part)

            แม้จะเคยสวย เคยสูงส่งแค่ไหน แต่ทุกอย่างก็เป็นเพียงอดีต ในเนื้อเพลงท่อนสุดท้ายนี้ได้ให้ภาพของสถานดูแลคนชรา(ในความคิดเรานะ) เพราะมีการที่พยาบาลพาไปอยู่ห้องส่วนตัว มีเตียง มีห้องน้ำ แล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆรอวันตาย

            ส่วนในMVก็เป็นภาพของยายที่ขับรถไปส่งเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่บ้าน เราคิดว่านั่นน่าจะเป็นลูกของคนรักเธอ แล้วก็มาถึงฉากสำคัญที่หลายๆคนงง  (ตอนแรกเราก็งง) คือจู่ๆยายก็แยกร่าง ร่างนึงยืนมอง อีกร่างเดินตามแล้วเข้าบ้านไป ร่างที่เดินตามนั้นเป็นภาพความคิดยายค่ะ ว่าถ้าวันนั้นยายเลือกแต่งงานกับแฟน ก็คงมีลูกออกมาน่ารักแบบนี้ ได้ใช้ชีวิตเป็นครอบครัว แต่นั่นก็เป็นทางที่เธอไม่ได้เลือก เธอเลือกใช้ชีวิตเพียงลำพัง ตอนนี้เธอจึงทำได้แค่ยืนมองจนสุดสายตาก่อนจะกลับไปขับแท็กซี่ และใช้ชีวิตเพียงลำพังแบบเดิม...


            สังเกตว่าตอนจบจากจอมุมกว้าง จะบีบเหลือเป็น1:1 เราคิดว่าน่าจะหมายถึงการกลับไปอยู่ในโลกใบเล็กๆใบเดิมที่มีแต่เธอเพียงลำพังนั่นเองค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans