แปลไทยแบบกันเอง - Melanie Martinez - Carousel






Round and round like a horse on a carousel, we go,
Will I catch up to love? I could never tell, I know,
Chasing after you is like a fairytale, but I,
Feel like I'm glued on tight to this carousel

วนรอบแล้วรอบเล่าเหมือนม้าหมุน ไปกันเถอะ
ฉันจะไล่ตามความรักได้ไหมน่ะหรือ? ตอบไม่ได้เลย
ฉันรู้ว่าการไล่ตามเธอมันเหมือนเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าน่องของฉันถูกทากาวแปะไว้กับม้าหมุนเลยล่ะ

Come, come one, come all,
You must be this tall
To ride this ride at the carnival
Oh, come, take my hand
And run though playland
So high, too high at the carnival

มาสิ จะทีละคน หรือมาหมดเลยก็ได้
เธอต้องโตพอนะ
ถึงจะเข้าไปเล่นม้าหมุนในงานได้
โอ้ มาสิ จับมือฉันไว้
แล้ววิ่งผ่านสวนสนุก
สนุกมาก สนุกสุดๆในงานเลี้ยงนี้

And it’s all fun and games,
'Til somebody falls in love,
But you've already bought a ticket,
And there’s no turning back now

มันเป็นแค่การเล่นสนุก
จนกระทั่งใครสักคนตกหลุมรัก
แต่เธอซื้อตั๋วเข้ามาแล้ว
และมันก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับไปหรอกนะ

Round and round like a horse on a carousel, we go,
Will I catch up to love? I could never tell, I know,
Chasing after you is like a fairytale, but I,
Feel like I'm glued on tight to this carousel

วนรอบแล้วรอบเล่าเหมือนม้าหมุน ไปกันเถอะ
ฉันจะไล่ตามความรักได้ไหมน่ะหรือ? ตอบไม่ได้เลย
ฉันรู้ว่าการไล่ตามเธอมันเหมือนเป็นเรื่องโกหก
แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าน่องของฉันถูกทากาวแปะไว้กับม้าหมุนเลยล่ะ

This horse is too slow,
We’re always this close,
Almost, almost, we’re a freakshow
Right, right when I’m near,
It’s like you disappeared,
Where’d you go? My dear, you're a freakshow!

ม้านี่มันวิ่งช้าไปแล้ว
เราห่างกันแค่นี้มาตลอด
เกือบแล้ว อีกนิดเดียว เราคือของแปลกไงล่ะ
ใช่แล้ว พอฉันเข้าไปใกล้
มันก็เหมือนเธอหายวับไป
เธออยู่ไหนกันนะ ที่รัก เธอช่างน่าประหลาดเสียจริง

And it’s all fun and games,
'Til somebody falls in love,
But you've already bought a ticket,
And there’s no turning back now

มันเป็นแค่การเล่นสนุก
จนกระทั่งใครสักคนตกหลุมรัก
แต่เธอซื้อตั๋วเข้ามาแล้ว
มันก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับไปหรอกนะ

Round and round like a horse on a carousel, we go,
Will I catch up to love? I could never tell, I know,
Chasing after you is like a fairytale, but I,
Feel like I'm glued on tight to this carousel

วนรอบแล้วรอบเล่าเหมือนม้าหมุน ไปกันเถอะ
ฉันจะไล่ตามความรักได้ไหมนั้น? ตอบไม่ได้เลย
ฉันรู้ว่าการไล่ตามเธอมันเหมือนเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าน่องของฉันถูกทากาวแปะไว้กับม้าหมุนเลยล่ะ

Why did you steal my cotton candy heart?
You threw it in this damn coin slot,
And now I’m stuck, I'm stuck
Riding, riding, riding

ทำไมเธอถึงได้ขโมยหัวใจสายไหมของฉันไป?
แล้วก็ทิ้งมันไปในช่องหยอดเหรียญ
และตอนนี้ฉันก็ติด ฉันติด
ติดอยู่บนม้าหมุนนี่

Round and round like a horse on a carousel, we go,
Will I catch up to love? I could never tell, I know,
Chasing after you is like a fairytale, but I,
Feel like I'm glued on tight to this carousel

วนรอบแล้วรอบเล่าเหมือนม้าหมุน
ฉันจะไล่ตามความรักได้ไหมน่ะหรือ? ตอบไม่ได้เลย
ฉันรู้ว่าการไล่ตามเธอมันเหมือนเป็นเรื่องโกหก
แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันคงออกจากวงจรนี้ไม่ได้แล้วล่ะ


กลับมาอีกครั้ง ที่ผ่านมากิจกรรมเยอะมากและทำงาน(หางานด้วย) ไม่ว่างแปลเพลงเลย ได้แต่ฟังเพลงเก็บไปเรื่อยๆ แต่ว่าตอนนี้เรากลับมาแล้ว (เดี๋ยวสักพักก็หายไปอีกแหละ 555) พร้อมกับเพลงของ Melanie Martinez สาวเสียงดีจาก the voice US สารภาพเลยว่าตอนแรกไม่ชอบนางเล๊ยยยย เพราะนางแอ็คเป็นเด็กเห็นแล้วมันหมั่นไส้ แต่ว่าพอมานั่งฟังเพลงนางดีๆ รู้สึกมันเป็นความจิกกัดแบบดาร์กลึกๆแบบมีคุณภาพเหมือนกันนะ (ไม่รู้ว่าสำหรับเราคนเดียวรึเปล่า 55+) แต่พอฟังแล้วตีความในหัวเราแล้วมันได้อ่ะ เออ ความหมายมันตลกร้ายดี ชอบจุงเลอ ตอนแรกฟัง Alphabet Boy แต่ลงเพลงนี้ก่อนเพราะตอนนี้อินสุด กริๆๆ

ความหมายหลักของเพลงนี้คือการที่ติดอยู่ในวงเวียนชีวิตรัก จากที่จะรักเล่นๆแค่พอสนุกเหมือนเล่นม้าหมุนไปเรื่อยๆ (วนเวียนไปมา) ก็กลายเป็นว่า อ้าว รักไปแล้วอ่ะ พอยิ่งรักก็ยิ่งอยากเข้าใกล้ อยากเป็นเจ้าของ แต่คุณนั่งม้าหมุนอ่ะค่ะมันจะเข้าใกล้ได้ไงในเมื่อมันล็อคไว้ว่าระยะมันคือเท่านี้ แต่จะลงก็ไม่ได้เพราะซื้อตั๋วเข้ามาแล้ว ก็ต้องวนเวียนทรมานต่อไปแบบไม่มีวันจะได้เขามาแถมจะออกจากวงจรอุบาทว์นี้ก็ไม่ได้ด้วย (Feel like I'm glued on tight to this carousel)

เพลงนี้ไม่ต้องตีความอะไรมาก แต่ชอบเวลามองไปในตานางตอนเล่นMVนี้นะ มันดูอ๊องๆ แบ๊วๆ เป็นส่วนผสมระหว่างความซื่อกับความมึนและเหมือนไร้สติหน่อยๆดี บางตอนเหมือนเมากาว ติดยา เพ้อๆ เพราะเวลามีความรักอาการมันก็จะประมาณนั้นแหละ ชอบการเปรียบเทียบของเพลงนี้ที่เปรียบความรักเหมือนม้าหมุน ส่วนตัวมองว่ามันจะต้องเป็นสังคมที่ทุกคนรักๆเล่นๆเหมือนกันมันถึงจะเกิดวงจรแบบนี้ได้ หรือไม่ก็มันต้องมีปัจจัยอะไรที่ทำให้นางโดดลงจากม้าหมุนไม่ได้ อาจจะแนวๆเหมือนกลัวเสียในสิ่งที่ยังไม่ได้ก็เลยต้องกล้ำกลืนต่อไป (เหมือนเพลง1000 times - Sara Bareilles) ก็แล้วแต่ความสามารถในการเอกเชื่อมโยงเข้ากับชีวิตของคุณเลย (แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นTCASแล้วนี่เนอะ ยังต้องสอบแก็ทกันอยู่อีกไหมนิ?)

freakshow แปลว่าโชว์ของแปลก อารมณ์ประมาณเมียงูในงานวัดน่ะค่ะ หรืออาจจะเป็นพวกโชว์วิตรถารก็ได้แล้วแต่จะใช้ แต่ในที่นี้เลยแปลว่าของแปลก (freak) ประมาณความสัมพันธ์เรามันแปลก พวกเรามันตัวประหลาด แปลกแยกจากสังคม แปลให้เป็นอารมณ์นั้นแทน เพราะว่าดูจากคาแร็คเตอร์นางเขาอาจต้องการสื่อถึงคนที่uniqueมากๆจนดูเป็นคนแปลกไม่สนโลกอยู่ในสังคมของตัวเอง (ลองจินตนาการถึงสังคมเด็กวัยรุ่นมะกันที่มีเด็กที่ต่างจากชาวบ้านอยู่แล้วก็ไปรวมตัวกัน เหมือนชมรมเด็กอีโม ชมรมloser  ปล.ไม่ได้เหยียดนะว้อย ยกตัวอย่าง) เออ ก็สรุปไม่รู้ว่าทำไมใช้คำนี้ แต่แปลออกมาแบบนี้

อีกท่อนนึงคือ cotton candy heart (ทั้งท่อนเลยนะ) หัวใจที่เป็นขนมสายไหมเนี่ย มันจะต้องเบา แล้วก็หวานเนอะคะ? (ถามแบบบังคับให้เห็นด้วย 555+) คงจะเหมือนหัวใจสาวน้อย อ่อนหวาน บอบบาง อ่อนไหว (โดนน้ำก็ยุบ แตะก็บุบ จะปั้นเป็นทรงไหนก็ได้) เขาหยอดหน่อย ดึงหน่อยก็ปลิวไปตามคำหวาน (ความเบาของสายไหม) แต่เมื่อน้ำตาลเปล่าลมโดนจับยัดไปในช่องหยอดเหรียญ เราเดานะว่ามันต้องผ่านการปั้นเป็นก้อนก่อน เหมือนความรักของสาวน้อยที่มันเริ่มหนักแน่นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา โดนหยอดแทนเหรียญ คงเหมือนกับการใช้ความรักเป็นเครื่องมือไปสู่อะไรสักอย่าง มันเลยกลายเป็นว่าเธอต้องอยู่อย่างกล้ำกลืนฝืนทนเพราะด้วยนิสัย(ที่กล่าวไว้)กับความรักที่เจ้มจ้นที่ทำให้เหรียญสายไหมที่ทำมาจากน้ำตาล เหนียวหนึบติดแหง็กไปไหนไม่ได้ทั้งที่เสียใจเหลือเกิน...

คงสรุปไม่ได้ว่าเป็นความรักแบบไหน แต่บางครั้งมันก็เหมือนกับอยู่บนม้าหมุนจริงๆนั่นแหละ วนเวียนมาแต่วัฏจักรเดิมๆ บางคนรู้ทั้งรู้ว่าถ้าเข้าไปขี่ม้ามันจะต้องวนเวียนทรมานแบบนี้อีกหลายรอบนะ ก็ยังอยากจะเข้า มันคงสนุกสำหรับเขาล่ะมั้ง (คนเขียนไม่เคยเข้าใจความสนุกของม้าหมุนเลย...) บางคนคงติดใจรสความสนุกจนต้องยอมเจ็บซ้ำๆ หมายอมขมกลืน ส่วนคนที่จะไม่เจ็บเลยคือคนที่สนุกแต่ไม่รัก กับคนที่ไม่เล่น...

...คิดว่าไอ้พวกนี้ไม่ได้เจ็บตรงนี้แต่น่าจะไปเจ็บตรงอื่นแทน...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans