แปลไทยแบบกันเอง : Of Monsters and Men – Silhouettes



                 เรารู้จักวงนี้ก่อนที่จะดูหนังเรื่องHunger gameซะอีก (ซึ่งก็ดูเพราะเขาบอกว่าดี...และมันก็ดีในระดับหนึ่งสำหรับเรา) เพลงแรกที่รู้จักคือ Little Talks และ King And Lionheart ตอนแรกทำนองไม่ได้อะไรมาก ฉันถูกดึงดูดจากMVที่มันแปลกตาต่างหากเล่า สูเจ้าเอย  นั่นแหละ....แล้วก็เป็นไปตามทฤษฎีที่ใครสักคนเคยพูดเอาไว้ว่า ถ้าเพลงที่เราฟังแล้วมันไม่ได้รู้สึก 'คลิก' ภายในครั้งแรก แล้วเรามาฟังซ้ำอีก มันจะเพราะยิ่งขึ้นเรื่อยๆ....เป็นไปตามนั้นเลยจ้าาาา   แล้วพอมาพินิจพิเคราะห์ความหมาย เราก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ เลยตามวงนี้ไปเลย 555555 

                    ส่วนเพลงนี้นี่คลิกตั้งแต่ครั้งแรกเลย เราจะแปลเอาความหมายรวมๆก่อนนะ เพราะจริงๆแล้วเพลงนี้เป็นเพลงประกอบHunger game เพราะฉะนั้นแฟนหนังเรื่องนี้ก็จะแปลออกมาละเอียดลงไปอีก ของเราเอาคร่าวๆแบบไม่อิงเนื้อหาหนังก่อนละกัน แล้วเดี๋ยวอธิบายตอนท้ายอีกที



It's hard letting go
I'm finally at peace but it feels wrong
Slow I'm getting up
My hands and feet are weaker than before


มันยาก....ที่จะปล่อยไป
สุดท้ายฉันก็อยู่อย่างสงบสุขแล้ว แต่มันรู้สึก....ไม่ถูกต้องนัก
ฉันค่อยๆตื่นขึ้น
...มือและเท้าของฉัน...มันรู้สึกอ่อนแอกว่าที่เคยเป็น



And you are folded on the bed where I rest my head
There's nothing I can see, darkness becomes me


และเธอ....ก็นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน  ที่ที่ฉันจะพักผ่อนลงได้
ฉันมองไม่เห็นอะไรอีก และหลับลงในที่สุด


[Chorus]
But I'm already there, I'm already there
Wherever there is you, I will be there too


แต่ฉันอยู่ตรงนั้นแล้ว ฉันอยู่ตรงนั้นแล้ว
ที่ไหนก็ตามที่มีเธอ ฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย


There's nothing that I'd take back
But it's hard to say there's nothing I regret
Cause when I sing, you shout
I breathe out loud
You bleed, we crawl like animals
But when it's over, I'm still awake


ไม่มีอะไร...ที่ฉันเอากลับคืนไปได้
แต่มันก็ยากที่จะพูดว่าไม่มีอะไรให้เสียใจ
เพราะเมื่อฉันร้อง เธอตะโกน
ฉันถอนหายใจแรงๆ
เธอหลั่งเลือด แล้วเราก็คลานราวกับสัตว์
แต่เมื่อมันจบลง ฉันยังคงรู้สึกตัวอยู่

A thousand silhouettes dancing on my chest
No matter where I sleep, you are haunting me

เงานับพันเต้นอยู่บนอกฉัน
ไม่ว่าฉันจะนอนที่ไหนก็ตาม เธอก็ยังตามไปหลอกหลอนฉันเสมอ

[Chorus x4]


---------------------------------------------------




            ความหมายคร่าวๆ.แบบไม่อิงหนัง.นี่ไม่งงกัน. ชิมิ ชิมิ (กำท่ด สงสัยดึกไปหน่อย มาร้องลูกทุ่งอะไรตอนนี้ 55555) คราวหมายโดยรวมคือ คนร้องผ่านอะไรมาหนักมาก รอดมาได้ แต่ก็รู้สึกอ่อนแอกว่าเมื่อก่อน เธอคิดถึงคนรักที่เคยนอนเคียงข้างกัน (แหงสิวะ! ไม่รักกันมันจะนอนข้างกันทำพรือนิ!?) ช่วงเวลานั้นเธอรู้สึกวางใจได้และผ่อนคลายที่สุด


            ส่วนท่อนฮุคที่บอกว่าจะตามคนรักไปทุกที่นี่กลับให้ความรู้สึกเหมือนว่าคนรักตายจากไปแล้วยังไงไม่รู้ หรือไม่ก็คลาดกัน คือตามรอยไป ไปที่เดียวกันจริงแต่เหมือนคนละช่วงเวลา(อันนี้ในความรู้สึกเรานะ) คือการที่พูดว่า “ฉันอยู่ที่นั่นแล้ว” มันเหมือนกับอีกฝ่ายไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงนั้น เลยต้องบอกมันว่า “กูอยู่ที่นั้นแล้ว ทราบแล้วเปลี่ยน” ส่วนประโยคหลังที่ว่า “Wherever there is you, I will be there too” มันเป็นคำพูดของคนที่จะคอยติดสอยห้อยตามไปด้วยทุกแห่ง พอมาอยู่ใกล้กับประโยคแรกมันเลยให้อารมณ์เหมือนว่า ตามมาแล้ว แต่ไม่ทัน คือไปหาแหละ แต่มักจะช้าไปเสมอ (น้องเดินมาบอก พี่แม่งคิดมากสัส : ขอโทษค่ะ /me)



            ท่อนต่อมาทพูดถึงความรู้สึกโดยรวมของเหตุการณ์ในอดีต ว่าเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ และรู้สึกเสียใจกับเรื่องนั้น จากนั้นคนร้องก็ค่อยอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกเสียใจและเสียดายที่เปลี่ยนมันไม่ได้ ซึ่งนั่นก็เพราะคนร้องเหมือนจะนิ่งนอนใจ(ร้องเพลง) แต่อีกฝ่ายเป็นคนตะโกน (กระตุ้นให้รู้ตัว หรือระแวดระวังมากขึ้น ทำอะไรเร็วขึ้น) ซึ่งอีกฝ่ายที่ร้องบอกนั่นแหละที่เป็นคนเจ็บแทน(bleed) ส่วนการคลานเหมือนสัตว์ป่าหมายถึงการผ่านมาได้แบบสะบักสะบอมสุดๆ คลานเหมือนหมากันเลย อะไรประมาณนั้น ซึ่งพอเรื่องทุกอย่างมันจบลง กลับเป็นคนร้องคนเดียวที่ยังมีสติอยู่ (อีกฝ่ายจะสลบไป ตาย หนีหาย หรือยังไงนี้แล้วแต่คนฟังจะอิงเลยค่ะ)


            เรื่องมันยังไม่จบ เพราะหลังจากความยากลำบากเหล่านั้น คนร้องก็เกิดเปลี่ยนใจไปเล่นหนัง incidius // ล้อเล่นจ้า คือคนร้องก็เล่าต่อว่า ผ่านมาได้แล้วก็จริง แต่ภาพความทรงจำและเรื่องราวแย่ๆก็ยังตามติด (เมื่อกี้เลยเล่นมุข ‘incidius วิญญาณตามติด ไง -..- แป๊กดิ....แม่งแป๊กตลอดแหละ) ในรูปแบบของเงา หรือความฝัน จำนวนนับพัน(Thousand) คือแม่งเยอะสัส ตามมาหมดทุกอย่างเลย มันเยอะมากจนมากองอยู่บนอก และคอยหลอกหลอนอยู่เสมอไม่ว่าเธอ(I)จะนอนที่ไหนก็ตาม มันเลยเป็นการบอกกลายๆว่าไอ้คนที่เคยนอนข้างๆแม่งไม่ได้นอนด้วยกันแล้ว

            ประโยคสุดท้ายที่ว่า “You are haunting me.” สำหรับเรามันให้ภาพย้ำไปที่ประโยคข้างหน้าอีกว่า “ไม่ใช่แค่เรื่องร้ายๆจะหลอกหลอนฉัน แต่การที่ไม่มีเธอที่เคยนอนข้างกันและทำให้เรื่องร้ายๆหายไป มันก็หลอกหลอนฉันด้วย” อารมณ์ประมาณเห็นผีนึกถึงพระน่ะค่ะ คือเมื่อก่อนเจอผีพกพระไว้ก็อุ่นใจ แต่ตอนนี้พระหาย ผีก็มา เลยนึกถึงอะไรที่เคยทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย

            ร่ายมาซะยาวที่เราแปลก็คล้ายกับแบบที่อิงหนังพอสมควรนะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าหนังเขาว่ายังไง
----------------------------------------------------------------------------------------

ความหมายตามภาพยนตร์




            หลังจากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันก็เป็นการยากที่แคสนิสจะลืมมันไปได้โดยง่าย แม้ว่าเธอจะชนะฮังเกอร์เกมและปลอดภัยจากเกมแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกผิด เพราะการรอดชีวิตของเธอคือการตายของผู้เล่นคนอื่นๆอีกกว่า22คน ซึ่งตัวนางเอกของเราไม่ชอบความคิดการฆ่าคนเพื่อเอาชีวิตรอดเท่าไหร่นัก ท่อนที่บอกว่า ‘Slow I'm getting up’ หมายถึงการที่เธอค่อยๆฟื้นตัวจากเกม ทั้งทางร่างกายและจิตใจนะคะ คือมันค่อยๆดีขึ้นอย่างช้าๆ เธอจึงต้องการจัดการกับความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ทั้งกับเกล กับแม่ของเธอ และกับคนอื่นๆ แต่ว่าตัวเธอเองก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับตอนก่อนเริ่มเกมเสียแล้ว และนั่นก็ทำให้เธอก็รู้สึกอ่อนแอกว่าที่เคยเป็น (ก็เอาชีวิตรอดมาด้วยการฆ่าคนไงคะ มันเลยเหมือนอยู่ได้อย่างไม่เต็มภาคภูมิ จะทำอะไรตัดสินใจอะไรก็ต้องคิดถึงผลกระทบอื่นๆที่ตามมาหมดเพราะเธออยู่ในฐานะ “ผู้ชนะ” เกมส์แล้วด้วย ทุกอย่างมันผูกมัดเธอไว้ก็เลยรู้สึกอ่อนแอลง ไม่เป็นตัวของตัวเอง)

            ส่วนท่อนที่บอกว่า ‘And you are folded on the bed, where I rest my head. There's nothing I can see.

Darkness becomes me’ หมายถึงในภาค Catching Fire แคสนิสมักจะฝันร้ายค่ะ นางเลยนอนไม่หลับ ก็เลยขอให้พีต้ามานอนข้างๆ โดยที่ตัวแคสนิสเองจะนอนซบอกพีต้า... (จย้าาาาาา -..-) ซึ่งพอได้นอนข้างพีต้าแล้วนางก็รู้สึกปลอดภัยไร้กังวล และหลับสนิทตลอดคืน (สโลแกนนี้มาแล้วนึกถึงผ้าอนามัยตลอดเว “หลับสนิทตลอดคืน โซฟีแบบกระชับ” 55555)
            ‘But I'm already there…’ ท่อนตรงนี้จะหมายถึง การที่เธอได้เป็นผู้ชนะในเกมนี้ (ครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้ ขออภัย) เธอชนะแล้ว และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะยืนหยัดสู้เพื่อปกป้องและช่วยเหลือพวกพ้องของเธอนั่นเอง

            แคสนิสเองรู้ดีว่า การตัดสินใจที่เธอเลือกไปแล้วมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และเธอก็เสียใจกับตัวเลือกเหล่านั้น ลึกๆเธอก็หวังว่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ ความโหดร้ายที่ทั้งคู่(แคสนิสและพีต้า)ได้เจอ การตะโกนใส่กัน ภาวะความกดดันต่างๆ ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ต้องเจ็บปวด เสียเลือดเสียเนื้อ ทุกอย่างมันยังคงตามหลอกหลอนเธอในยามหลับแม้ว่าเรื่องจะผ่านไปนานแล้ว เรื่องราวเหล่านั้นมาในรูปของภาพเงานับพันที่คอยหลอกหลอนเธอในความฝัน ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

            สรุปสั้นๆคือ เพลงนี้จะบอกว่า แคสนิสก็ยังคงหลอนอย่างต่อเนื่องนั่นเอง 5555 ถ้าสรุปให้ยาวๆหน่อยคือ เธอและพีต้าผ่านเรื่องร้ายๆมามาก พีต้าเป็นคนที่อยู่กับเธอตลอด(ในเกมส์) และทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เป็นที่พึ่งพิงทางใจ จนทำให้เธอเอาชนะฝันได้ร้าย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพีต้า เธอก็จะตามไปช่วย อันนำนำมาซึ่งภาคสุดท้ายนั่นเองค่ะ

            พอมาแปลอิงหนังแบบนี้แล้ว เราว่าเพลงนี้แคสนิสแต่งเองเลยแหละ 5555555+

ความคิดเห็น

  1. เราก็รู้จักวงนี้มานานพอสมควรเหมือนกัน เพลงแรกก็Little Talksแหละแต่ฟังก่อนเพลงจะดังอีก 555555555 เราชอบเพลงของวงนี้นะ มันดูมีกิมมิคดีทั้งความหมายและทำนองเลย จขบ.ลองฟังSloom กับ Yellow Light ดูค่ะ อยากเห็นบทวิเคราะห์ของจขบ. ติดตามนะคะ^^

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Atlantis

แปลไทย : Sia - Unstoppable

แปลไทยแบบกันเอง : Seafret - Oceans