แปลไทยแบบกันเอง : A Choir of Ghosts - Ester
We
can talk, we can walk, we can sleep in the rain,
We
can fight, we can scream, we could cure all this pain but for what?
For
you to walk away like before.
เราคุยกันได้
เราเดินไปด้วยกันได้ เรานอนหลับในสายฝนได้
เราทะเลาะกันได้
เรากรีดร้องได้ เราสามารถเยียวยาความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ได้ แต่มันเพื่ออะไรกันล่ะ?
เพื่อให้เธอเดินจากไปเหมือนที่แล้วมาน่ะหรอ
I’ll
set fire to the hills and I’ll build my own gun,
I’ll
hold on to the thought that were bigger than the sun and the moon,
And
the stars that are in your eyes,
Hold
me down.
ฉันจะจุดไฟเผาหุบเขา
และสร้างปืนของตัวเองขึ้นมา
ฉันจะยึดมั่นในความคิดที่ใหญ่กว่าตะวัน
จันทรา
และดวงดาวที่อยู่ในดวงตาของเธอ
ฉุดรั้งฉันไว้
So
sell me a river that I can swim up,
Please
tell me a story that I can live in,
Over
and over again.
ขายแม่น้ำที่ฉันสามารถว่ายทวนขึ้นไปได้ให้ฉันเถอะ
ได้โปรดบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องราวที่ฉันสามารถมีตัวตนในนั้น
เล่ามันซ้ำแล้วซ้ำอีก
I
could fall I could stall I could give up the dream,
I
can’t breath I can’t feel it’s not as easy as it seems,
To
lay down, let the waves wash me ashore,
Make
me clean.
ฉันล้มได้
ฉันยื้อไว้ได้ ฉันยอมแพ้ต่อความฝันได้
ฉันหายใจไม่ออก
เพราะรู้สึกว่ามันง่ายกว่าที่คิด
ในการที่จะวางสิ่งต่างๆ
และปล่อยให้คลื่นพัดพาฉันเข้าหาฝั่ง
ทำให้ฉันสะอาด
So
sell me a river that I can swim up,
Whilst
holding your life in my hands,
Feeling
my own feet dragging me down,
I
just hope I can save myself now,
Please
tell me a story that I can live in,
Live
in over and over again.
ขายแม่น้ำที่ฉันสามารถว่ายทวนขึ้นไปได้ให้ฉันเถอะ
ขณะที่ถือเอาชีวิตชีวิตของเธอไว้ในกำมือฉัน
รู้สึกถึงเท้าของฉันที่ทำให้ตกต่ำ
ฉันแค่หวังว่าฉันจะช่วยเหลือตัวเองได้ในตอนนี้
ได้โปรดเล่าให้ฉันฟังถึงเรื่องราวที่ฉันสามารถมีชีวิตอยู่ในนั้นได้
อยู่ในนั้นไปตลอดกาล
So
sell me a river that i can swim up,
I
keep feeling my own hands dragging me out,
I
believe I can save myself now,
Please
tell me a story that I can live in,
Live
in over and over again,
Over
and over again.
ขายแม่น้ำที่ฉันสามารถว่ายทวนขึ้นไปได้ให้ฉันเถอะ
ฉันยังคงรู้สึกว่าฉันทำให้ตัวเองหดหู่
ฉันเชื่อว่าฉันสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในตอนนี้
ได้โปรดบอกเล่าเรื่องราวที่ฉันสามารถมีตัวตนอยู่ในนั้น
มีชีวิตอยู่ในนั้นอีกครั้งและอีกครั้ง
มีชีวิตอยู่ไปตลอดกาล
So
sell me a story that I can live in, live in over and over again.
งั้นขายเรื่องราวที่ฉันสามารถมีชีวิตอยู่ในนั้นไปตลอดกาลให้ฉันทีเถอะ
ชอบทำนองค่ะ เปิดครั้งแรกแล้วรีบมาแปลเลย
ความหมายโดยรวมเหมือนกับว่าผิดหวังในความรัก
เราจะสานสัมพันธ์เพื่อให้อีกฝ่ายจบมันลงงั้นหรอ? ดูเหมือนว่า
เพลงนี้จะรับความสัมพันธ์ที่จบลงแบบนี้ไม่ได้ จึงอยากจะทำลายทุกอย่าง
สร้างอาวุธของตัวเองขึ้นมา และยึดถือความคิดที่เขาคิดว่าดีและเหนือกว่าความรักของเขาเอาไว้
เพื่อที่จะยังคงอยู่ในภาพความสัมพันธ์(ที่จบไปแล้ว)ได้ ส่วนท่อนขายแม่น้ำ
ก็เปรียบเสมือนการย้อนเวลา ทำสิ่งที่ทำได้ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้
เพราะแม่น้ำมีสัญญะของเวลา (เช่น
เวลาและวารีไม่เคยรอใคร หรือสายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ) แถมเอาแม่น้ำมาขายอีก....
นอกจากนั้นยังให้เล่าเรื่องราวที่เขา(คนร้อง) จะยังคงมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในนั้น
(มันก็หมายถึงเรื่องราวตอนที่ทั้งสองคนยังอยู่ด้วยกันนั่นแหละ)
แถมยังให้เล่าซ้ำๆอีก เพื่อที่จะได้มีตัวตนอยู่ในความรักของตัวเองไปตลอดกาล
(เพราะว่ายังทำใจไม่ได้สักที)
ท่อนต่อมาที่บอกว่าเขาจะล้ม จะถ่วงเวลา หรือจะยอมแพ้ต่อความฝัน
นั่นหมายถึงเขายอมจะทิ้งสิ่งต่างๆได้
โดยรู้สึกใจหายหรือกังวล(ตรงท่อนที่บอกว่าหายใจไม่ออก
การที่เราจะหายใจไม่ออกนี่คือต้องกดดันและอึดอัดพอควร)ที่เขาสามารถทิ้งทุกอย่างได้ง่ายกว่าที่คิด
และปล่อยตัวไปตามกระแสเรื่องราวเพียงเพื่อจะกลับไปยังจุดเริ่มต้น (ฝั่ง)
เพื่อที่จะได้รู้สึกดีหรือไร้มลทิน(สะอาด)
เขาพยายามของย้อนเวลา
ในขณะที่ยังนึกถึงภาพของคนเราเอาไว้ตลอด (Whilst holding
your life in my hands
ส่วนตัวเราว่ามันไม่ใช่ถือชีวิตจริงๆหรอก
แต่เราว่ามันหมายถึงภาพของคนรักในหัวของคนร้องมากกว่า) ส่วนท่อนFeeling my own feet dragging me down
ถ้าแปลออกมาสั้นๆก็คือทำพลาดด้วยตัวเอง หรือทำให้ชีวิตตัวเองตกต่ำลง
เขาหวังว่าจะดูแลตัวเองได้ (เพราะตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ไง ก็เลยหวังไปว่าจะไหว)
แต่สุดท้ายก็อยากอยู่ในแต่ภาพฝันของตัวเองอยู่ดี
จนมาถึงท่อนสุดท้ายก็ไม่ขอย้อนเวลาแล้ว
แต่ขอมีชีวิตอยู่ในภาพความทรงจำของตัวเองไปตลอดกาลแทน...
การไม่อาจหักใจในความสุขที่เคยได้รับและมีชีวิตอยู่กับความเป็นจริงได้นี่น่าสงสารนะคะ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น